มองอย่างเจี๊ยบ2022 : เปิดโผ 9 นักแบดมินตันเดี่ยวน่าจับตามองปีนี้

สวัสดีครับ! ต้อนรับเข้าสู่ “มองอย่างเจี๊ยบ” คอลัมน์สำหรับคนรักแบดมินตัน ในฉบับที่ 19 นะครับ ซึ่งถือว่าเป็นฉบับแรกของปี 2022 กันเลยทีเดียว แน่นอนว่าในปีนี้ เราก็ยังจะมีคอลัมน์แบดมินตัน ที่จะไปพูดคุยกับ “อ.เจี๊ยบ” ธนัช อัศวนภากาศ รองเลขาธิการสมาคมแบดมินตันฯ และ ผู้บรรยายจากทรูวิชั่นส์ มาให้แฟนๆขนไก่ได้อ่านกันตลอดทั้งปีแน่นอนเช่นเคยครับ

แน่นอนว่า ฤดูกาลแบดมินตัน ปี 2022 เปิดฉากแล้วตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมากับสองรายการระดับ 500 และ 300 ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นรายการที่ทัพนักกีฬาไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าแชมป์รายการระดับ 500 มาครองได้ทั้ง หญิงเดี่ยว (บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์) รวมถึงหญิงคู่ (เบญญาภา & นันทกานต์ เอี่ยมสอาด) โดยรายหลังจัดว่าเป็นหญิงคู่ดาวรุ่งดวงใหม่ที่น่าจับตามองเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีหญิงเดี่ยวคลื่นลูกใหม่อีกคนอย่าง ศุภนิดา เกตุทอง ที่ก็ทำได้ดีเช่นกันในสองรายการดังกล่าว รวมทั้งรายการรองๆลงมาในทวีปยุโรป เราก็หยิบแชมป์กันได้เป็นว่าเล่นเลยทีเดียวตลอดช่วงเดือน ม.ค. 2022 ที่ผ่านมา

มองอย่างเจี๊ยบ ในฉบับนี้ ถือเป็นการอุ่นเครื่องก่อนที่ตลอดทั้งปี แบดมินตัน มันส์ๆจะกลับมาแข่งขันกันอย่างครบวงจรให้คุณผู้ชมได้ติดตามแน่นอน หลังมีปัญหาเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตลอดสองสามปีที่ผ่านมา ซึ่งในฉบับนี้ อ.เจี๊ยบ จะมาพูดถึง นักแบดมินตัน ประเภทเดี่ยว 9 คน ที่ต้องจับตามองให้ดีในปีนี้ ว่าเขาจะมีผลงานอย่างไร ซึ่งจับตามองในที่นี้เป็นไปได้หลายสาเหตุ มีทั้ง เคยยิ่งใหญ่แล้วผลงานแผ่วลงไปในปีที่แล้ว , บาดเจ็บจนหายหน้าหายตาแล้วจะกลับมาในปีนี้ หรือว่าจะสามารถสานต่อความสำเร็จจากผลงานอันยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่แล้วได้หรือไม่นั่นเอง ฯลฯ

Q : แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น อยากจะให้ อ.เจี๊ยบ ได้สรุปภาพรวมของทัพนักตบไทยในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลที่อินเดียให้แฟนๆได้ฟังกันสักเล็กน้อยครับ ?อ.เจี๊ยบ : อันดับแรกต้องบอกว่าผลการแข่งขันรายการที่อินเดีย จัดว่าเป็นความสำเร็จเลยครับ โดยเฉพาะหญิงเดี่ยว และหญิงคู่ เพราะเราคว้ามาถึงสองแชมป์ในรายการ อินเดีย โอเพ่น ซูเปอร์ 500 รวมทั้งเป็นการชิงชนะเลิศกันเองด้วยในหญิงเดี่ยว ซึ่งเราต้องชื่นชม น้องครีม ที่สามารถคว้าแชมป์รายการ 500 ได้เป็นครั้งที่สอง เกมในนัดชิง เป็นการเอาชนะ ศุภนิดา เกตุทอง หรือ “เมย์ซ้าย” ก่อนจะเป็นน้องครีม ที่แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์และความนิ่งที่มากกว่าเอาชนะไปได้ แต่รูปเกมถือว่าสนุกและสูสีเลยแหละครับ ส่วน น้องเมย์ซ้ายเอง ก็น่าชมเชยมากๆนะครับ ที่สามารถปราบ พีวี สินทุ ขวัญใจเจ้าถิ่นในรอบรองชนะเลิศมาได้ ด้วยรูปแบบเกมที่ BWF ขึ้นอินสตาแกรมเลยว่า “Jump match style by Suphanida” หมายความว่า การตบทำคะแนนของศุภนิดา ที่ไม่มีใครทำ นั่นคือการกระโดดตบทุกลูก โชว์ความแข็งแรงให้เห็นออกมาทั้งสามเกม จนเอาชนะไปได้ แม้ว่าจะโคจรไปพบกันอีกในรายการต่อเนื่องสัปดาห์ถัดมาในรอบเดียวกับ ที่ “ไซเอ็ด มูดี้” คราวนี้ เมย์แพ้ 1-2 เกม โดยที่ไปเสมอกัน 17-17 เท่ากันในเกมสาม แล้วเมย์ไปหลุดเองอย่างน่าเสียดายครับ ขณะที่ “มูนา & อันนา” เบญญาภา & นันทกานต์ เอี่ยมสอาด กับการคว้าแชมป์ระดับ 500 เป็นครั้งแรก ก็ถือเป็นคลื่นลูกใหม่หญิงคู่ที่น่าสนใจมาก เป็นเกมบุกทั้งสองคนช่วยกัน ผมมองว่าอาจจะมีปรับรูปเกมอีกครั้งในอนาคต เพื่อความลงตัวมากขึ้น แล้วจะเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยได้ในอนาคตอันใกล้นี้ นอกจากนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน ก็มีนักกีฬากลุ่มดาวรุ่งของสมาคมฯ ไปทำการแข่งขันและสร้างความสำเร็จบนเวทียุโรป หลังกลุ่มนี้ในช่วงสองปีที่ผ่านมาแทบไม่มีโอกาสออกเดินทางแข่งขันด้วยสถานการณ์โควิดฯ แต่เมื่อโอกาสมาถึง ก็ทำได้ยอดเยี่ยมมาก เหมือนดังประโยคนึงที่ผมเพิ่งอบรมมา ว่า “โอกาสเป็นเหมือนไอศกรีม” เพราะถ้าเราไม่คว้ามันไว้ มันก็จะละลายหายไป หากเราคว้ามาได้ เราก็จะได้ลิ้มรสความหวานความอร่อยนั่นเอง เริ่มกันที่ “น้องพิงค์” พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ จากโครงการฟาร์มมิ่ง สามารถปราบรุ่นพี่ “เเครอท” พรพิชชา เชยกีวงศ์ ไปได้ 2-1 เกม ในรอบชิงชนะเลิศหญิงเดี่ยว ที่สวีเดน ขณะที่ “นั่ง & เจน” เฌอย์นิชา สุดใจประภารัตน์ & ชาสินี โกรีภาพ ก็ทำได้ยอดเยี่ยมเช่นกันที่คว้าแชมป์หญิงคู่มาได้ ในรายการระดับ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ครับ จัดว่าทีมขนไก่ไทยออกสตาร์ทฤดูาลได้เยี่ยมจริงๆ

ลำดับต่อไปจะเป็น 9 นักแบดมินตันเดี่ยวที่น่าจับตามองในปีนี้ ในมุมของ อ.เจี๊ยบ แบ่งเป็นชายสี่และหญิงห้าคน มาฝากกันครับดังต่อไปนี้

วิคเตอร์ อเซลเซ่น (เดนมาร์ก)

แชมป์โอลิมปิกเกมส์คนล่าสุดพลาดท่าพ่ายให้กับ โลห์ เคียนยิว ในศึกชิงแชมป์โลกไปแบบสุดช็อก แต่ตลอดปี 2021 ผลงานโดยรวมของหนุ่นเดนนิสคนนี้ ทำได้ยอดเยี่ยมมาก สามารถคว้าแชมป์มาได้ถึง 7 รายการ จากการเข้าชิงชนะเลิศ 9 รายการ แล้วเป็นรายการใหญ่ๆทั้งนั้น ต้องมาดูกันว่าปีนี้ วิคเตอร์ จะกอบโกยความสำเร็จได้มากมายแบบปีที่แล้วได้หรือเปล่า ? และสามารถจะเเก้ตัวในชิงแชมป์โลกได้หรือไม่ ?

เคนโตะ โมโมตะ (ญี่ปุ่น)

อีกหนึ่งนักแบดมินตันสุดชอกช้ำในปี 2021 หลังจากที่ “คิงเคนโตะ” คว้าแชมป์ที่มาเลเซีย เมื่อต้นปี 2020 แล้วก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนต้องหยุดทำการแข่งขันไป 1 ปีเต็มๆ พอกลับมาก็ปรากฏว่ามาพลาดท่าตกรอบแรกโอลิมปิกเกมส์ คาบ้านตัวเองอย่างน่าเหลือเชื่อ หลังจากนั้นร่างกายกรอบมากๆจากการกรำศึกหนักติดๆมาหลายรายการ ตลอดปี 2021 ทีผ่านมา ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะคว้าแชมป์ได้ 1 รายการเท่านั้น ที่ อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส ซึ่งเป็นอะไรที่น่าจะแย่เกือบที่สุดในการเล่นอาชีพเลยทีเดียว ทีนี้เราต้องมาดูว่า ปี 2022 อาการบาดเจ็บที่น่าจะหายเรียบร้อย เขาจะกลับมาทวงบัลลังก์มือ 1 โลก หรือ แชมป์โลกได้หรือเปล่า ?

โลห์ เคียนยิว (สิงคโปร์)

หนุ่มหล่อร่างทองคำ เปิดฉากปี 2021 ก็ไม่ได้มีผลงานอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ในช่วงปลายปีทำผลงานสุดยอดกับการคว้าแชมป์ใหญ่เป็นครั้งแรกในรายการ ไฮโล โอเพ่น ระดับ 500 ที่เยอรมัน เข้าชิงชนะเลิศอีกหนึ่งรายการใหญ่ทั้ง อินโดนีเซีย โอเพ่น 1000 ทำให้เขาเกิดความคึก มั่นใจในตัวเองหนักมาก ก่อนมาประกาศศักดาคว้าแชมป์โลก 2021 ชนิดหักปากกาเซียน ด้วยการปราบทั้ง วิคเตอร์ อเซลเซ่น , เคนโตะ โมโมตะ ฯลฯ ก่อนจะมาทุบ คีดิมบี้ สีคาน ในรอบชิงชนะเลิศไปอีก แล้วตอนนี้สานต่อเข้าชิงชนะเลิศได้ตั้งแต่ต้นปีในอินเดีย โอเพ่น แต่แพ้ไป ทีนี้ก็ต้องมาดูว่า โลห์ เคียนยิว จะสามารถรักษาแชมป์โลกได้หรือไม่ ? เพราะหลังจากที่ฟอร์มระเบิดแตกแบบนั้น ทุกคนจะทำการเอ็กซเรย์เขามากขึ้น มันจะไม่ง่ายเหมือนการเป็นตัวนอกสายตาหรือม้ามืดแล้ว ทุกคนอยากชนะแชมป์โลก อยู่ที่เขาเองว่าจะสามารถรักษาระดับการเล่นและความเสถียรไว้ได้ดีมากน้อยขนาดไหนครับ

ลี ซื่อเจี๋ย (มาเลเซีย)

คนนี้น่าเห็นใจครับ แบกรับความคาดหวังของแฟนขนไก่มาเลเซีย ทุกครั้งที่ลงเล่น มีความกดดันในตัวเองสูงมากกับคำว่า “ลี ช่องเหว่ย 2” ทำให้ผลงานออกทะเลไปหมด จนตอนนี้ประกาศลาออกจากการเป็นนักกีฬาสมาคมเป็นที่เรียบร้อย ด้วยความกดดัน , ความคาดหวังที่เขาแบกรับไม่ไหวอีกต่อไป เจ้าตัวตัดสินใจออกมาเป็นศิลปินอิสระ วางแผนแข่งขันเอง ฝึกซ้อมเอง เพื่อให้ได้ตามที่ตัวเองถนัดมากขึ้น สิ่งแรกที่ต้องดู ลี ซื่อเจี๋ย คือ เขากลับมาทำได้ดีกว่าเดิมหรือไม่ ? หลังจากที่ไม่ต้องพบกับความคาดหวังและความกดดันแล้ว จะตีเป็นธรรมชาติได้อย่างที่เขาเคยพีคๆ สมัยคว้าแชมป์ ออลอิงแลนด์ 2021 ได้หรือไม่ ? และอีกเรื่องนึงก็คือ ยังไม่มีใครทราบว่าจะไปเล่น ซีเกมส์ หรือ เอเชียนเกมส์ ได้หรือไม่ ? อีกด้วยครับ

นอกจากนี้ ผมยังฝากแฟนๆติดตามพัฒนาการของ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ หนุ่มดาวรุ่งไทยวัย 20 ปี ที่จะเข้าสู่การเล่นเวิลด์ทัวร์ เต็มรูปแบบเป็นปีที่สาม หลังจากที่เคยเข้าชิงชนะเลิศรายการระดับ 300 มาแล้วสองครั้ง รวมถึง เวิลด์ทัวร์ไฟน่อลส์ ปีล่าสุด แต่ทั้งสามรายการก็แพ้ให้กับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น คนเดียวทั้งสิ้น อยากให้จับตามองว่า วิว จะเก่งขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ ? โดยส่วนตัวผมมั่นใจว่า ปี 2022 วิวจะมีแชมป์อย่างน้อยๆ 1 รายการมาฝากแฟนๆขนไก่ไทยแน่นอนครับ

ไต้ จื่ออิง (ไชนีส ไทเป)ปี2021 เธอคว้าได้แค่รองแชมป์โอลิมปิกและรองแชมป์โลก น่าจะเป็นครั้งแรกๆในอาชีพเลยแหละที่หนึ่งปี ไม่มีแชมป์เลย แต่มันก็ด้วยการลงแข่งน้อยของเธอด้วยนะครับ อย่างไรก็ตามเธอก็เป็นนักแบดมินตันมือ 1 ของโลกที่ครองตำแหน่งยาวนานกว่า 200 สัปดาห์ (อันดับ 4 ตลอดกาล) แต่ก็ยังเป็นราชานีไร้มงกุฏ ที่ไม่สามารถคว้าแชมป์โลก และแชมป์โอลิมปิกได้ เช่นเดียวกันกับ ลี ชองเหว่ย (รีไทร์ไปแล้ว) อดีตนักแบดมินตันมือ 1 โลกชาวมาเลเซีย ทีครองมือ 1 โลกยาวนาน 348 สัปดาห์ ฉะนั้นต้องมาดูว่า ไต้ จื่ออิง ที่อกหักตลอดทั้งปีทั้งการแพ้ ยู่เฟย ในโอลิมปิก และ อกาเนะ ยามากูชิ ในชิงแชมป์โลก เธอจะไปเติมเชื้อไฟให้ตัวเองกลับมาอยากเล่น อยากล่าความสำเร็จได้หรือไม่ โดยเฉพาะแชมป์โลกที่เธอวาดฝันมานาน ซึ่งอายุตอนนี้ก็ปาไป 27 ปีเข้าแล้ว

เฉิน ยู่เฟย (จีน)บุคคลสาปสูญจากปี 2020-21 ออกมาเล่นน้อยมาก ยิ่งปี 2021 ก็ได้แชมป์โอลิมปิกแล้วก็ไม่ลงทำการแข่งขันเลย รวมทั้งชิงแชมป์โลกด้วยจากอาการบาดเจ็บ ก็ต้องมาดูกันว่า ยู่เฟย ที่หายไปนานมากพร้อมกับทัพนักกีฬาจีนหลายคน หากได้กลับมาเล่นเต็มที่แล้ว สภาพร่างกายจะเป็นอย่างไร จากการร้างสนามไปนานขนาดนี้ครับ โดยเป้าหมายหลักคงจะเป็นการคว้าแชมป์ เอเชียนเกมส์ และ แชมป์โลกให้ได้อย่างแน่นอน

อกาเนะ ยามากูชิ (ญี่ปุ่น)แชมป์โลกหญิงคนล่าสุด ที่ยังไม่เคยได้เหรียญโอลิมปิก ต้องมาดูกันว่าโจทย์ใหญ่ของเธอคือการรักษาแชมป์โลกไว้ได้หรือไม่ กับสภาพร่างกายที่ตอนนี้น่าจะฟิตเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มที่แล้ว อีกจุดที่น่าสนใจของ อกาเนะ คือหลายปีหลังที่ผ่านมา สไตล์การเล่นของเธอเริ่มโดยคลื่นลูกใหม่เลียนแบบและทำได้ดีกว่า ทำให้เธอต้องพยายามถีบตัวเองขึ้นมาให้ได้มากที่สุดในปีนี้ อีกทั้งแชมป์เอเชียนเกมส์ ที่ก็เป็นตัวเต็งเช่นกัน

อัน แซยอง (เกาหลีใต้)

ปี 2021 พบกับ อกาเนะ ยามากูชิ บ่อยมาก ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ซึ่งด้วยอายุและประสบการณ์ที่มากขึ้นเรื่อยๆทำให้เธอน่าจับตามองว่าจะสามารถคว้าความเร็จได้มากขนาดไหน หลังจากที่หญิงเดี่ยวเกาหลีใต้ หมดยุคของ ซัง จีหยุน ไป ก็มีเธอที่ดูเข้าที่เข้าทางและน่าจะขึ้นมาเป็นความหวังใหม่ได้อีกอย่างน้อยๆหนึ่งทศวรรษเลยแหละ

แคโรไลน่า มาริน (สเปน)สาวโชคร้ายประจำปี 2021 กับการนอนอยู่โรงพยาบาลเป็นหลักด้วยปัญหาบาดเจ็บ ทำให้พลาดรายการใหญ่ไปหลายรายการ ทั้งโอลิมปิก และ ชิงแชมป์โลก โดยเฉพาะรายการหลังที่น่าเสียดาย เพราะเป็นการลงเล่นในสนามกีฬาที่ใช้ชื่อเธอเป็นชื่อสนามแท้ๆ ในเมืองอูเอลบา ประเทศสเปน ต้องจับตาดูว่า มาริน จะกลับมาและสร้างความยิ่งใหญ่ในหมู่มวลของหญิงเดี่ยวได้หรือไม่ ?

นอกจากนี้แน่อนว่า “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ , “น้องครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ , “น้องหมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ , “น้องจิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ หรือคลื่นลูกใหม่หลายๆคนสาวไทย จะก้าวขึ้นมาเป็นเสี้ยนหนามให้มือระดับท็อปๆต้องลำบากใจกันมากน้อยขนาดไหน ผมก็มั่นใจว่ารายชื่อที่กล่าวไป น่าจะมีแชมป์มาฝากแฟนๆอย่างแน่นอนในปีนี้ครับ

และนี่ก็คือ มองอย่างเจี๊ยบ ฉบับที่ 19 นะครับ เป็นฉบับแรกของปีนี้ โดยฉบับที่ 20 อ.เจี๊ยบ จะมาเปิดโผนักแบดมินตันประเภทคู่ที่น่าจับตามองในปีนี้ จะเป็นใครกันบ้าง ห้ามพลาดนะครับ วันนี้ลาไปแล้ว สวัสดีครับ

เรียบเรียงโดย : นิก ธีร์ธวัช

ขอบคุณภาพจาก : Badminton Photo