มองอย่างเจี๊ยบ ฉบับที่ 21 อ.เจี๊ยบ คาดการณ์ 10 ขนไก่คู่ ทั้งสามประเภท ที่ผลงานน่าสนใจ และมีโอกาสยิ่งใหญ่เฉิดฉายประจำปี 2022 นี้
สวัสดีครับ! พบกันอีกครั้งใน มองอย่างเจี๊ยบ คอลัมน์สำหรับคนรักแบดมินตัน ในฉบับที่ 3 ของปี 2022 นับเป็นฉบับ 21 หากรวมตั้งแต่แรกกันแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเราจะไปพูดคุยกับทุกเกร็ดขนไก่โลกที่น่าสนใจ รวมถึงรีวิวรายการใหญ่ในทุกเหตุการณ์กับ “อ.เจี๊ยบ” ธนัช อัศวนภากาศ รองเลขาธิการสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย รวมทั้งเป็นผู้บรรยายและกูรูขนไก่เบอร์ต้นๆของประเทศไทย ณ เวลานี้
หลังจากที่ฉบับแรกของปีนี้ เราให้ อ.เจี๊ยบ จัดนักแบดมินตันเดี่ยวที่น่าจับตามองประจำปี 2022 ออกมา ซึ่งได้มาถึง 9 คนด้วยกัน ทำให้ฉบับนี้ เราจะมาดูที่ประเภทคู่ทั้งสามประเภท ทั้ง ชายคู่ , หญิงคู่ และ คู่ผสม ที่กำลังทำผลงานสู้กันอย่างเข้มข้น มีคู่ดาวดวงใหม่หลายคู่ที่เกิดขึ้นในปีนี้ รวมทั้งกลุ่มที่เป็นมหาอำนาจอยู่แล้ว ซึ่ง อ.เจี๊ยบ จะมองว่า 10 คู่ จาก 3 ประเภท คู่ใดที่น่าจะเฉิดฉายในปี 2022 บ้าง ไปติดตามพร้อมกันเลยครับ
สถานการณ์ของประเภทคู่ในช่วงต้นปี รอบ 4 เดือนที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง
อ.เจี๊ยบ : ประเภทคู่ในปีนี้ สิ่งที่ไม่เปลี่ยนเลยคือคู่ผสม สี่คู่บนทั้ง เดชาพล พัววรานุคราะห์ & ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย , หวัง ยี่ลู่ & หวง ตงปิง , & ยูตะ วาตะนาเบะ & อริสระ ฮิกาชิโนะ และ เจิ้ง ซีเว่ย & หวง ย่าเฉียง ยังไร้เทียมทาน เมื่อไหร่ก็ตามที่กลุ่มนี้ลงแข่ง สามารถการันตีเข้ารอบรองชนะเลิศได้ตลอด ส่วนคู่อื่นๆนอกเหนือจากนี้ ยังต้องปรับมาสู้กันอีกเยอะ ขณะที่ชายคู่ ต้นปีสนุกมาก บัลลังก์ของ เควิน ซานจาย่า ซูคาลมูลโจ้ & มาร์คัส เฟอร์นัลดี้ กีเดี้ยน ถือว่าไม่นิ่งแล้ว มีฟอร์มการเล่นที่ดรอปลงไป ด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่นเดียวกับ โมฮาหมัด อาซาน & เฮนดร้า เซเทียวาน ก็เข้าสู้ช่วงปลายอาชีพแบบจริงๆ ยามต้องไปเกมสามเมื่อไหร่ มีปัญหาตลอดในเรื่องของสภาพร่างกาย แม้ฝีไม้ลายมือจะยังสุดยอดอยู่ก็ตาม ทำให้รุ่นใหม่ๆของทั้ง อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย ต่างมีโอกาสเยอะพอสมควรที่จะขึ้นมาแย่งบัลลังก์ในปีนี้ได้ ด้านหญิงคู่ หลายๆคู่ยังลุ่มๆดอนๆกับสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะของเกาหลีใต้ , จีนก็ยังทดลองของใหม่ๆอยู่นั่นเอง จะมีญี่ปุ่นที่ดูดี รุ่นใหม่ถือว่าน่าจับตามองหลายคู่ครับ
ชายคู่
มูฮาหมัด ฟิครี & บากัส มัวลาน่า (อินโดนีเซีย)
สร้างผลงานสุดยอดมากด้วยการคว้าแชมป์ออล อิงแลนด์ 2022 ได้แบบหักปากกาเซียนทั้งโลก ด้วยสไตล์การเล่นถือเป็นคู่ที่ลงตัว โดยเฉพาะ ฟิครี ที่สไตล์คล้ายกับ ซีกิต บูเดียโต้ แฟนๆในอดีตจำได้แน่นอน เป็นคนที่หน้าเนตไว และคม รวมทั้งออกหลังได้หนักหน่วง ไม่ต่างกับมือหลังอาชีพเลย ส่วนคู่ขา มัวลาน่า ถือว่าอยู่หลัง หนักอยู่แล้ว รูปร่างสูงใหญ่ นับเป็นอะไรที่ลงตัว เชื่อเลยว่าน่าจะเป็นคู่ที่มีโอกาสเฉิดฉายในทุกรายการที่ลงเล่น อย่างน้อยๆน่าจะการันตี รอบก่อนรองชนะเลิศได้เกือบทุกรายการนะ ยิ่งอยู่ในมือของพ่อมดแฮร์รี่ ด้วยแล้ว โอกาสขึ้นท็อป ไม่ไกลครับ
ทาคุโร โฮกิ & ยูโกะ โคบายาชิ (ญี่ปุ่น)
อยู่ใต้ร่มเงาของอดีตสองชายคู่ยิ่งใหญ่ปลาดิบมานาน ทั้ง คามูระ & โซโนดะ และ เอ็นโดะ & วาตะนาเบะ จนกระทั่งปลายปีที่แล้วฉายแสงคว้าแชมป์โลกกับ เวิลด์ทัวร์ ไฟน่อลส์ มาได้ ข้อได้เปรียบของคู่นี้คือเป็นมือซ้าย-ขวา ซ้ายของโคบายาชิ ขวาของโฮกิ เกมการเล่นของ โคบายาชิ นอกจากหนักแล้วถือว่าข้อผิดพลาดน้อยลงไปเยอะมาก ตีละเอียดขึ้นเยอะมาก ต้องตามดูเลยว่าปีนี้ จะทำผลงานได้เท่าของเก่าหรือดีกว่าเก่าหรือไม่ สำหรับญี่ปุ่นคู่นี้
หลี่ หยาง & หวัง ชี่หลิน (ไชนีส-ไทเป)
กลายเป็นว่าเริ่มมีหายไปในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2021 หลังระเบิดฟอร์มซิวสามแชมป์ที่ไทย ไปต่อเนื่องที่การคว้าแชมป์โอลิมปิกเกมส์ ที่ญี่ปุ่น ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งโควิด และฟอร์มการเล่นที่อาจะมีผ่อนลงไป ทำให้ต้องดูว่าปีนี้จะกลับมาระเบิดแตกได้อีกครั้งหรือไม่ กับการเล่นของสองคนนี้ที่ต้องบอกว่า เหนียวแน่น หนัก ทั้งคู่ ยิ่งเฉพาะ หลี่ หยาง เทพหน้าเน็ตอยู่แล้ว แต่พอออกหลัง ก็ตบหนักไม่แพ้มือหลังเลย ส่วน หวัง ซี่หลิน ต้องปรับหน้าเน็ต ยามที่ต้องขึ้นไปเล่นแบบจำเป็น แต่ท้ายคอร์ท หนักมาก ไว้ใจได้ ซึ่งหากจูนกันได้เร็ว ได้เคาะกันสักสองรายการ ความมั่นใจมา ก็ยากที่ใครจะเอาอยู่ครับ
คัง มินฮยุก & โซ เซืองแจ (เกาหลีใต้)
เป็นการจับคู่ใหม่ที่ใช้งานในปีนี้ของเกาหลีใต้ คู่นี้ผมมองว่าเป็นอะไรที่ถูกฝาถูกตัวมากๆ เป็นเหล้าเก่า แต่ผสมกันใหม่ ซึ่งการคู่กันครั้งแรกก็สามารถคว้าแชมป์รายการ 500 ที่โคเรีย โอเพ่น ได้เลย คัง มินฮยุก ถือว่าหนักมาก ส่วน โซ เซืองแจ ก็หน้าเน็ตดี และเร็วอยู่แล้ว เดิมทีที่คู่กับ ชอย ซอยกิล ก็ไม่ได้ถือว่าขี้เหร่ แต่ ชอย ซอยกิล เทคนิค ยังสู้ คัง มินฮยุก ไม่ได้ เชื่อว่า การปรับจูนของเกาหลีใต้ มีความลงตัวแทบทุกครั้ง ผมเชื่อเลย คู่นี้จะเป็นอีกคู่เลยที่ชิงความยอดเยี่ยม กับอีกสามคู่ด้านบนที่กล่าวไปแน่นอน
หญิงคู่
เฉิน ชิงเฉิน & เจี่ย ยี่ฟาน (จีน)
อาจจะไปพลาดตกรอบแรกที่ ออล อิงแลนด์ เนื่องด้วยการวางแผนผิดพลาดจริงๆ แต่มวลรวมยังเหนือกว่าหญิงคู่แทบทุกคู่ในเวลานี้ ด้วยสไตล์การเล่นของ เฉิน ชิงเฉิน ที่ประกบหน้าเน็ตเร็ว อยู่หลังเอาตัวรอดได้ตลอด ส่วน เจี่ย ยี่ฟาน อย่างที่เราเห็นกัน แฮนด์เวิร์คดีมากๆ เกมรับเกมบุก ซ้ายธรรมชาติหนักมากๆ ยอดเยี่ยมมาตั้งแต่ได้แชมป์เวิลด์จูเนียร์ จนขึ้นไปถึงแชมป์โลก และด้วยที่ชาติอื่นๆยังไม่ลงตัว อินโดคู่หลักเลิกไป นั่นทำให้ เฉิน & เจี๋ย จะเป็นมหาอำนาจหญิงคู่ในปีนี้ครับ หากไม่มีปัญหาโควิด
ชิฮารุ ชิดะ & นามิ มัตสึยามะ (ญี่ปุ่น)
เป็นคู่ที่ไปอยู่ในใจของใครหลายคนแล้ว โดยเฉพาะความน่ารักของ ชิดะ อีกทั้งด้วยสไตล์การเล่นที่สนุกของทั้งสองคนที่ต่างจากญี่ปุ่นคู่อื่นๆ วนกันบุกได้ตลอด ในปัจจุบัน ชิดะ ผลงานเยี่ยมมากๆ จากที่เคยอยู่แต่หน้า กลายเป็นออกหลังแล้วบุกได้ เป็นส่วนผสมที่ลงตัว จนพากันคว้าแชมป์ออล อิงแลนด์ เปิดศักราชของปีได้อย่างยอดเยี่ยม ผมมองว่าถ้าไม่เกิดอาการบาดเจ็บ มีโอกาสที่จะเข้ารอบลึกๆ หรือคว้าแชมป์ได้ในทุกรายการครับ
คิม โซยอง & กอง ฮียอง (เกาหลีใต้)
ต้องมาตามดูว่า คิม & กอง จะสานต่อความสำเร็จจากปีที่แล้วได้มั้ย จากการปั้นเกมหน้าเน็ตของ คิม และ หนักๆด้านหลังจาก กอง ดูแล้วน่าจะมีโอกาสประสบความสำเร็จ อาจจะโชคร้ายที่ต้นปีมีปัญหาโควิด เข้ามาทำให้ผลงานยังดูไม่ดีเท่าไหร่นัก ต้องถอนตัวในหลายรายการ ซึ่งจากการคว้าแชมป์ รายการ 300 ที่บ้านเกิด น่าจะเรียกความมั่นใจให้กับสองสาวมากขึ้นเลยทีเดียว อ้อ! ขอแสดงความยินดีกับ คิม โซยอง ที่กลายเป็นว่าที่เจ้าสาวไปเรียบร้อยแล้วด้วยครับ
คู่ผสม
เดชาพล พัววรานุเคราะห์ & ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย
ผลงานยอดเยี่ยมมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2021 ทั้งปี กับ 7 แชมป์ที่ทำได้ แม้จะพลาด ออล อิงแลนด์ ปีนี้ แต่ก็เป็นการแพ้มือในระดับเดียวกัน พัฒนาการดีขึ้นทั้ง บาส และ ปอป้อ โดยเฉพาะปอป้อ ที่ประกบหน้าได้ดี แม้จะยังไม่โดดเด่นเท่าคนอื่น แต่จุดเด่นคือ เวลาออกด้านข้าง ออกหลัง ไม่เสียเปรียบ โดยเฉพาะเกมรับถือว่าเหนียว ส่วน บาส วิ่งทั่วคอร์ท แล้วก็ลูกตบที่หนักขึ้นเยอะมากในทุกปี จนได้รับฉายาว่า “บาสบิน” ทำให้ยังเป็นอะไรที่น่ากลัว และหากลงทัวร์ไหน ก็แทบจะใส่ชื่อไปรอในรอบชิงชนะเลิศได้เลยครับ
ยูตะ วาตะนาเบะ & อริสะ ฮิกาชิโนะ
ปรับกันมาได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงหลัง จากในอดีตที่ก็ดีมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะ ฮิกาชิโนะ ที่รู้หน้าที่ตัวเองแล้ว ไม่ได้ออกหลังบ่อยเหมือนเดิม แต่กลายเป็นพอได้จังหวะ จะโฉบเข้าหน้าเน็ตตลอด เกมรับแน่นมาก ต้านทานกับเกมบุกหนักๆของ บาส และ หวัง ยี่ลู่ ได้ชนิดที่เรียกว่า ตบมาเถอะ รอรับได้ทั้งวัน ส่วน วาตะนาเบะ ไม่ต้องห่วงเลย จัดอยู่ในระดับนินจา รวดเร็ว ว่องไว แล้วปีสองปีที่ผ่านมา ไปเติมความหนักมาก เทคนิคดีมาก คู่นี้น่ากลัว มีโอกาสจะเป็นคู่ที่ขึ้นมาแย่งบัลลังก์กับไทยและจีนได้แบบชัดมาก ยิ่ง วาตะนาเบะ ไม่เล่นชายคู่แล้ว เหลือโฟกัสเดียวด้วยนั่นเอง
หวัง ยี่ลู่ & หวง ตงปิง
คู่ที่ยังยอดเยี่ยมมากๆ แม้จะได้รองแชมป์ออล อิงแลนด์ แต่แมตช์นั้นก็เป็นนัดที่สนุกมากๆ คู่นี้เก่งขึ้นในทุกวัน โดยเฉพาะ หวง ตงปิง เกมหน้าเน็ตพัฒนาดีขึ้นมากๆ เกมออกหลัง แข็งแรงมากๆ เหนียวแน่น สามารถบงการเกมได้อย่างยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับ ยี่ลู่ ที่แต่เดิมมีแต่หนักในเกมบุก กลายเป็นว่าตอนนี้เติมความว่องไว บินได้ตลอด มันทำให้กลายเป็นอะไรที่ลงตัวมากทันที ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองคนใจเย็นมาก โดยเฉพาะ ยี่ลู่ ที่สามารถรองรับอารมณ์ของ ตงปิง ยามหัวร้อนและหลุดได้ ดังนั้นผมจึงเชื่อว่าคู่นี้ ก็มีโอกาสที่จะครองความยิ่งใหญ่ในปีนี้อีกปี และมากกว่าทุกคู่ด้วยครับ
สุดท้ายนี้ ขอชี้แจงว่าสาเหตุที่ไม่มี เจิ้ง ซีเว่ย & หวง ย่าเฉียง ในลิสต์นี้ เพราะผมเองก็ยังไม่ทราบว่า คู่นี้จะกลับมาจับคู่ด้วยกันอีกมั้ย กับการที่จีน กำลังลองอะไรใหม่ๆ แยกทั้งคู่ออก ด้วยความกังวลหลายๆอย่าง ซึ่งคงต้องตามกันต่อไปว่าจะกลับมาล่าความสำเร็จกันต่อหรือจะทิ้งไว้เป็นตำนาน นอกจากนี้ขออนุญาต พูดถึงของไทยสักเล็กน้อยนะครับกับประเภทคู่ เรามีกำเนิดคู่ใหม่ๆมาสองคู่ ต่อจาก จงกลพันธ์ กิติธรากุล & รวินดา ประจงใจ หญิงคู่ที่อยู่ในระดับท็อปเท็นอยู่แล้ว แต่ในปีนี้ เรามีดาวรุ่งหญิงคู่ดวงใหม่ ทั้ง เบญญาภา & นันทน์กาญจน์ เอี่ยมสอาด หรือ มูนา-อันนา ขึ้นมา คว้าแชมป์ระดับ 500 ไปแล้วด้วย ต้องบอกเลยว่าคู่นี้ผันตัวมาจากหญิงเดี่ยว สิ่งที่ดีคือทั้งสอง มีความแข็งแรงด้วยกันทั้งคู่ แฟนๆอยากให้เห็นการเล่นแบบสไตล์ ชิดา & มัตสึยามะ คือช่วยกันวนมาบุก ช่วยกันสนับสนุน เพราะทั้งสองคนตีหนักอยู่แล้ว โดยเฉพาะ มูนา มันจะทำให้ อันนา มีโอกาสเข้าประกบ และได้คะแนน คู่นี้เป็นความหวังที่ดูแล้วมีอนาคตแน่นอน ส่วนที่ลืมไปไม่ได้อีกคู่ สุภัค จอมเกาะ & ศุภิสรา เพียวสามพราน หรือ เอ็ม-เฟรม ที่โดดเด่นตั้งแต่ปี 2021 แม้รูปร่างอาจจะเล็กไปสักนิด แต่หัวจิตหัวใจทั้งสองคนมุ่งมั่นมาก โดยเฉพาะ เฟรม ที่ประกบหน้าเน็ตดี และมีเกมรับที่ค่อนข้างโอเค ส่วน เอ็ม ยามอยู่แดนหลัง มีลูกตบที่หนักพอตัว แต่สิ่งที่ต้องปรับเพิ่มคือ ขาดความพิถีพิถันไปเล็กน้อย ยังมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง แต่หากเก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ ได้เจอกับคนเก่งเยอะๆ ก็เชื่อว่าจะขึ้นท็อป 20 ได้ในอีกไม่นานครับ
ก่อนจากกันในฉบับนี้นะครับ ผมอยากจะเชิญชวนแฟนๆแบดมินตัน ร่วมส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทยในการแข่งขันแบดมินตัน ชิงแชมป์เอเชีย 2022 ที่ฟิลิปินส์ ระหว่างวันที่ 26 เม.ย. – 1 พ.ค. 65 ซึ่งหากเราไปดูศึกชิงแชมป์โลกแล้ว ก็จะสังเกตได้ว่ามีแต่ชาวเอเชียที่เข้าชิงชนะเลิศ ดังนั้น แชมป์เอเชีย มันก็เปรียบเสมือนแชมป์โลกย่อมๆเหมือนกัน มีถ่ายทอดสดทางทรูวิชั่นส์ ศุกร์ เสาร์ และ อาทิตย์ แน่นอนครับ นอกจากนี้พลาดไม่ได้กับศึก โธมัส & อูเบอร์ คัพ ที่จะจัดแข่งขันในประเทศไทย (8-15 พ.ค.) และ โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น (17-22 พ.ค.) ฝากแฟนๆไปจองตั๋วเข้าไปเชียร์กันให้กระหึ่ม ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ครับ แต่หากไม่สะดวกสามารถรับชมได้ทาง ทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดจัดเต็มเช่นกัน รอบนี้เรามีเฮแน่นอนครับผม