ชั่วโมงนี้หากกล่าวถึงดาวรุ่งในวงการแบดมินตันไทย นามว่า “น้องพิงค์” พิชฌามลน์ โอภาสนิพัทธ์ สาวน้อยวัย 15 ปี จากสโมสรเกษมศักดิ์ แบดมินตัน อะคาเดมี่ ซึ่งมี “โค้ชตี๋” เกษมศักดิ์ จตุจินดา เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ต้องยอมรับว่า เธอฮอตและถูกแสงสปอตไลต์สาดส่องเข้ามามากขึ้นและเป็นที่น่าจับตามองมากขึ้นเรื่อยๆ
“น้องพิงค์” ได้รับฉายาว่าเป็นสาวน้อยหน้าหวาน โดยสร้างผลงานในวงการแบดมินตันไทย ด้วยการคว้าแชมป์มาครองนับไม่ถ้วน อาทิ เยาวชนแห่งชาติ 2018 รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี, แชมป์หญิงเดี่ยว CU OPEN 2018 รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งผลงานที่กล่าวถึงนั้น ทำให้คนในวงการขนไก่และแฟนๆกีฬาไทยเริ่มหันมาสนใจในฟอร์มและฝีมือของสาวน้อยรายนี้มากยิ่งขึ้น
ด้วยความสูงถึง 170 ซม. ในวัยเพียง 15 ปี ต้องบอกเป็นสรีระที่ดีมากๆต่อการพัฒนา และแน่นอนว่า นอกจากรูปร่างและสรีระที่ดีแล้ว เจ้าตัวยังถือเป็นนักกีฬาแบดมินตันดาวรุ่งที่มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวง ด้วยการใช้ทักษะแฮนด์เวิร์คต่างๆที่ดี ทำให้ “น้องพิงค์” ตีลูกได้แม่นยำและมีน้ำหนักที่ดี ซึ่งสามารถ สร้างความได้เปรียบได้เป็นอย่างมาก ทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงมักจะเอาชนะนักกีฬารุ่นพี่ได้อยู่เสมอ และประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว
“ไม่ว่าจะแข่งกับใคร รุ่นไหน เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ ไม่กดดันตัวเอง พยายามตีให้เป็นตัวเอง ตีให้เป็นธรรมชาติที่สุด”
“การซ้อมและแข่งขัน หนูมองว่าเป็นเหมือนหน้าที่อีกอย่างเหมือนงาน ตัวเองยังรู้สึกมีความสุขที่จะทำอยู่ ส่วนการที่เอาเวลามาทุ่มตรงนี้ ทั้งในการซ้อมและแข่ง ก็ถือว่าเสียช่วงเวลาความเป็นวัยรุ่นไป แต่ก็เป็นสิ่งที่เราต้องยอมเสียและแลกกับมัน หากอยากประสบความสำเร็จ” นี่คือ บทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่ง ของ “น้องพิงค์” พิชฌามลณ์ ที่เปิดใจผ่านรายการ BOXTOBOX ทางช่องทีสปอร์ต 7
สำหรับความฝันของ “น้องพิงค์” เจ้าตัวบอกว่าอยากประสบความสำเร็จในวงการแบดมินตันให้ได้ทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นการติดทีมชาติ การได้ออกไปหาประสบการณ์แข่งขันรายการต่างๆ ในระดับโลก การได้ไปวาดลวดลายในโอลิมปิกเกมส์ รวมถึงการก้าวขึ้นเป็นมืออันดับ 1 ของโลกให้ได้สักครั้ง
“น้องพิงค์” พิสูจน์ผลงานจนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นอนาคตของวงการแบดมินตันไทยอย่างแท้จริง โดยคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันไทย ยังเคยออกมากล่าวถึง “น้องพิงค์” หลัง คว้าแชมป์หญิงเดี่ยว แบดมินตัน วิคเตอร์ สวีดิช โอเพ่น 2022 ว่า “พิงค์” มีรูปร่างที่สูงยาว และได้เปรียบคู่ต่อสู้ มีการเล่นที่ฉลาด มีจิตใจที่แข็งแกร่ง เชื่อว่าอีกไม่นานจะขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคต”
สำหรับผลงาน “น้องพิงค์” ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าร้อนแรงมากๆ โดยคว้าแชมป์ แบดมินตัน เอสซีจี จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 ครั้งที่ 39 รอบคัดเลือกตัวแทนภาคเหนือ รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ประเภทหญิงเดี่ยว ซึ่งหนนั้นยังคว้าแชมป์หญิงคู่มาครองได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังได้แชมป์ เอสซีจี จูเนียร์ แบดมินตัน แชมเปี้ยนชิพ 2019 แชมป์ จายา รายา จูเนียร์ กรังด์ปรีซ์ 2019 ที่อินโดนีเซีย, แชมป์รายการพิเศษ “เวิลด์ แบดมินตัน อันเดอร์ 15 โชไน อินวิเตชั่นแนล 2019” ที่ญี่ปุ่น และอินเตอร์เนชั่นแนล ชาลเลนจ์ มองโกเลีย อินเตอร์เนชั่นแนล ชาลเลนจ์ 2019′ ที่มองโกเลีย รวมไปถึง เหรียญทองหญิงเดี่ยวกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 ที่บุรีรัมย์ ด้วยการเอาชนะรุ่นพี่อย่าง ศิรดา รุ่งพิบูลโสภิษฐ์
ผลงานส่วนตัวที่ยอดเยี่ยม นำมาสู่เส้นทางในการก้าวมาติดทีมชาติ “น้องพิงค์” ติดทีมชาติไทยครั้งแรก ในศึกแบดมินตันเยาวชนโลก ในเดือน ม.ค.2021 ที่นิวซีเเลนด์ ซึ่งตอนที่มีชื่อติดอายุเพียง 13 ปี กลายเป็นนักกีฬาไทยคนที่ 2 ที่ได้เป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปแข่งเยาวชนโลก ต่อจาก “เมย์” รัชนก อินทนนท์ แต่เป็นที่น่าเสียดาย เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การแข่งขันในศึกเยาวชนโลกต้องยกเลิกไป
หลังจากนั้น “น้องพิงค์” กลับมามุ่งมั่น ฝึกซ้อม พัฒนาตัวเองต่อเนื่อง และเริ่มปี 2022 ได้อย่างสุดยอด ด้วยการคว้าแชมป์ในระดับ บีดับเบิลยูเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรี่ส์ รายการเอสโตเนีย โอเพ่น และ วิคเตอร์ สวีดิช โอเพ่น 2022 ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
จากผลงานดังกล่าวเธอก็กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง และล่าสุด เจ้าตัวคว้าอันดับ 1 จนการคัดเลือกเป็นตัวแทนทีมชาติไทยในประเภทหญิงเดี่ยว เพื่อทำการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม และ ศึกทีมชิงแชมป์โลก โธมัส-อูเบอร์คัพ ที่ประเทศไทย ในเดือนพ.ค.นี้ โดยรายการคัดเลือกนี้ เธอปราบรุ่นพี่อย่าง “เมย์” ศุภนิดา เกตุทอง ในรอบชิงชนะเลิศได้ด้วย 2-1 เกม
“ดีใจมากๆ ที่สามารถผ่านเข้ามาติดทีมชาติได้ ตื่นเต้น เพราะเป็นการติดทีมชาติครั้งแรกของหนู ส่วนตัวจะได้ลงแข่งขันในประเภทหญิงเดี่ยว ก็ตั้งเป้าจะคว้าเหรียญทองมาฝากกองเชียร์คนไทยให้ได้ หลังจากนี้ไปก็จะฝึกซ้อมอย่างหนักและเสริมสร้างร่างกายให้แกร่งมากขึ้น เพื่อที่จะทำให้ได้ตามเป้าหมายของตัวเองให้ได้” พิงค์ กล่าวเปิดใจ
เชื่อได้ว่าการติดทีมชาติซีเกมส์ครั้งแรกในวัยเพียงแค่ 15 ปี นั้น จะเป็นประตูสู่การแข่งขันแบดมินตันที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นรายการระดับนานาชาติของ BWF และด้วยสไตล์การเล่น บวกสรีระรูปร่าง เชื่อว่าอีกไม่เกิน 3-4 ปีจากนี้ แฟนๆจะได้เห็นสาวน้อยรายนี้ก้าวขึ้นมาเล่นในระดับที่สูงขึ้น ในศึกเวิลด์ทัวร์ ตามรอยรุ่นพี่หลายๆคนได้อย่างแน่นอน
Add friend ที่ @Siamsport