หลัง “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ร่วมกัน คว้าแชมป์แบดมินตันคู่ผสม “เวิลด์ แชมเปียนชิป 2021” ที่ประเทศสเปน
ก่อนหน้านั้นไม่กี่วันก็เพิ่งจะขึ้นไปครองมือ 1 โลกคู่ผสม
ได้เพียงแค่เชิญธงแสดงชื่อของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (Badminton Association of Thailand : BAT) ขึ้นสู่ยอดเสาเท่านั้น
จนกลายเป็นกระแสดราม่าอยู่ตอนนี้
เรื่องของเรื่อง เป็นปัญหาคาราคาซังที่ยืดเยื้อมาหลายเดือน หลังประเทศไทยถูก องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti–Doping Agency : WADA) แบน
ไม่ให้การรับรองประเทศไทย เนื่องจากยังไม่ได้ปฏิบัติตามธรรมนูญขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลกในด้านของการบังคับใช้กฎหมาย
ผมจำได้ว่าตอนที่เกิดเรื่องขึ้นหมาดๆก็มีคนออกมากระทุ้งให้รัฐบาล โดย การกีฬาแห่งประเทศไทย, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมไปถึง คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย
เร่งแก้ปมปัญหานี้โดยด่วน เพราะมันส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ
หากยังไม่ได้รับการแก้ไข การแข่งกีฬาระดับโลกทุกประเภท ตั้งแต่กีฬาโอลิมปิกไล่ลงมาจะไม่มีธงชาติไทยร่วมอยู่ในริ้วขบวน หรืออยู่บนยอดเสาในมหกรรมกีฬานั้นๆ
ตอนนี้ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงของ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ยังมีกระบวนการอีกหลายขั้นตอน หากกฤษฎีกาฯตรวจทานแก้ไขเสร็จต้องส่งให้ที่ประชุม ครม.อนุมัติหลักการร่างฯ ก่อนส่งให้รัฐสภาพิจารณา ผ่านที่ประชุมสภาฯ 3 วาระแล้วก็ยังต้องส่งให้วุฒิสภากลั่นกรองอีก
ซึ่งก็มีการตั้งคำถามจาก พรรคก้าวไกล ไปถึง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ผู้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง
และเป็นผู้ที่มีอำนาจมากพอที่จะแก้ไขเรื่องนี้ได้โดยเร็ว
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ของวงการกีฬาระดับโลก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งขับเคลื่อนแก้ไขเพื่อรักษาเกียรติภูมิของประเทศ และความภาคภูมิใจให้กับนักกีฬา
“และคงต้องถามว่าชายชาติทหารที่ปากบอกว่ารักชาตินักหนาจะไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ หากนักกีฬาของเราซึ่งฝึกฝนฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ จนได้ไปแข่งและต่อสู้กับคู่แข่งที่มาจากทั่วโลก จนได้รับรางวัล แต่เขากลับไม่สามารถนำธงของประเทศขึ้นสู่ยอดเสา และร้องเพลงชาติของเราอย่างภาคภูมิใจได้ ความภูมิใจนี้คือสิ่งที่นักกีฬาสมควรได้รับเกียรติอย่างที่ควรเป็นในฐานะตัวแทนของชาติ และดีใจไปด้วยกันไม่ใช่หรือ”
ถ้าไม่คิดเข้าใครออกใครไม่มองว่าเป็นดราม่าการเมือง
ก็น่าจะเป็นข้อความที่พูดแทนใจของคนไทยหลายคน รวมถึงทุกคนในแวดวงกีฬา
เรื่องนี้จะว่าใหญ่ก็ใหญ่ จะว่าเล็กก็เล็กในสายตาผู้มีอำนาจ
แต่กว่านักกีฬาทุกประเภทจะลงแข่งขันได้ต้องฝึกซ้อมกันสายตัวแทบขาด
และนักกีฬาทุกคนก็เปรียบเป็นตัวแทนคนไทย
เป็นตัวแทนศักดิ์ศรีของประเทศไทย.
เพลิงสุริยะ