“ขนไก่ไทย”หมดเวลาจมทุกข์ เมื่อภารกิจรออยู่ – คมชัดลึก

การแพ้ให้กับ   ไต้ จื่ออิง มืออันดับ 1 ของโลกจาก ไต้หวัน 1-2  เกม  คือ  21-14, 18-21 และ 18-21 คือการปิดฉากอย่างสมบูรณ์แบบของ “ เมย์” รัชนก อินทนนท์  แบดมินตันหญิงเดี่ยว  ทีมชาติไทย    เพราะนี่คือการจบเส้นทาง อยู่ที่รอบ 8 คนสุดท้าย   ของแบดมินตันทีมชาติไทย กับทัวร์นาเมนต์ โอลิมปิก  โตเกียว 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น

แบดมินตันทีมชาติไทย  ผ่านเข้ามาเล่น “ โตเกียว2020” ในประเภทหญิงเดี่ยว คือ  “เมย์” รัชนก อินทนนท์, “ครีม” บุศนันทน์ อึ้งบำรุงพันธุ์ , ชายเดี่ยว “กัน” กันตภณ  หวังเจริญ , หญิงคู่”กิ๊ฟ “จงกลพรรณ กิติธารากุล- “วิว” รวินดา ประจงใจ  และคู่ผสมคือ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ  “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย

ผลงานของมือหวดทีมชาติไทย  “กัน” กันตภณ  หวังเจริญ   ชายเดี่ยว  เอาชนะในนัดแรก และแพ้ในการแข่งขันนัดที่สอง ให้กับนักกีฬาสหราชอาณาจักร จบเส้นทางรอบ เพียง รอบแรก  , หญิงคู่ กิ๊ฟ -วิว  แพ้ตลอด  3 นัด ในรอบแรก  พลาดการเข้ารอบ , คู่ผสม บาส – ปอป้อ  แพ้ให้กับญี่ปุ่น  ชาติเจ้าภาพ  หยุดเส้นทางที่รอบก่อนรองชนะเลิศ

แบดมินตันหญิงเดี่ยว  ครีม บุศนันทน์    มืออันดับ 13 ของโลก   แพ้ให้กับ  มืออันดับ 8 ของโลก จากเกาหลีใต้  จบเส้นทางที่รอบ  16 คน สุดท้าย  จนกระทั่งมาถึงเมย์  รัชนก อินทนนท์  ที่แพ้ให้กับมือ 1 ของโลก จากไต้หวัน ในการแข่งขัน เย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา  ก่อนการแข่งขันโอลิมปิก โตเกียว 2020  สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย  ได้วิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้   ต่อโอกาสทำผลงาน โดยโฟกัสไปที่คู่ผสม บาส ปอป้อ  และหญิงเดี่ยว  คือ  เมย์  รัชนก  และครีม บุศนันทน์  

ในรายของคู่ผสม  บาส-ปอป้อ ต้องยอมรับว่าคู่มือหวดไทย สร้างผลงานอย่างโดดเด่น เมื่อคว้าแชมป์  3 รายการติดติดต่อกัน ในทัวร์นาเมนต์เวิล์ดทัวร์ไฟนอลส์ ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ  ส่วนในฝั่งหญิงเดี่ยว คือการคาดหวังไปถึงการเรียกฟอร์มการเล่น  ทั้งจาก”เมย์” รัชนก และ”ครีม”บุศนันทน์  โดยหวังให้ทั้งคู่ผ่านรอบ 8 คน สุดท้าย  ให้ได้  เพราะหากทำได้สำเร็จ ย่อมหมายถึงโอกาส ที่มีลุ้นไปสู่การคว้าเหรียญ

 แต่เกมการต่อสู้ ที่สิ้นสุดลง แบดมินตันทีมชาติไทย ทำผลงานได้ไกลที่สุดคือ  “เมย์” รัชนก  เมื่อมาถึงรอบ 8 คน  และยุติเส้นทาง เพียงรอบนี้การประเมินผลงานของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย  ที่มีต่อนักกีฬาทีมชาติไทยกับทัวร์นาเมนต์นี้  ที่มองว่า ไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจ ในเมื่อทุกคนเต็มร้อยกับภารกิจแล้ว  คือ การปลุกกำลังใจ ของทุกคนให้กลับคืนมา

ดึงความเชื่อมั่นของทุกคนให้กลับคืนมา มองไปถึงการแข่งขันรายการต่อไป ที่พวกเขาเหล่านี้  กำลังจะกลับเข้าสู่สนาม ทั้งกับรายการ  สุธีรมาน คัพ ไฟนอลส์    ซึ่งจะมีขึ้นระหว่าง  26 กันยายน-3 ตุลาคม   ที่เมืองวันตา ประเทศฟินแลนด์   , การแข่งขัน โธมัส -อูเบอร์ คัพ 2020   ระหว่าง  9-16 ตุลาคม   ที่เมืองอาร์ฮุส ประเทศเดนมาร์ก ,  และรายการชิงแชมป์โลก 2021 ระหว่าง  12-19 ธันวาคม 2564 ที่เมืองอูเอลบา ประเทศสเปน

ทัวร์นาเมนต์เหล่านี้  คือ ความหวังต่อการกลับมาไล่ล่าความสำเร็จ ถือเป็นการแก้ตัว กับการพลาดโอกาสใน”โตเกียว 2020″ เป็นการสลัดความพ่ายแพ้ มองไปข้างหน้า เพื่อสร้างโอกาส  คือสิ่งที่มือหวดลูกขนไก่ทีมชาติไทย  จะต้องทำเรียกความเชื่อมั่นคืนมา ป่วยการที่จะมาโทษตัวเอง เพราะทุกคนได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว  ในนาม”แบดมินตันทีมชาติไทย”