และเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2020 คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) ได้แจ้งข่าวสำคัญให้ทราบว่า ชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นตอนนั้น มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ หลังหารือร่วมกับ โธมัส บาค ประธานไอโอซี
ได้ข้อสรุปทั้งรัฐบาลญี่ปุ่นและไอโอซีเห็นชอบเลื่อนการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ออกไปเป็นเวลา 1 ปี โดยจะไปจัดระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม-8 สิงหาคม 2021 แทน
และยังคงชื่อโอลิมปิก โตเกียว 2020 ไว้เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนตัวเลขปีแต่อย่างใด
โดยนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 124 ปีของโอลิมปิกเกมส์ที่ต้องถูกเลื่อน เว้นแต่ช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 1 และ 2 ที่มีการยกเลิกการจัดแข่งขัน
ความคาดหวังของทั้งเจ้าภาพญี่ปุ่นและไอโอซีในตอนนั้น คาดการณ์กันว่าเมื่อเลื่อนออกไปอย่างน้อย 1 ปีแล้ว สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 น่าจะเบาบางลง น่าจะจัดการแข่งขันได้อย่างราบรื่น
แต่ทว่า ในข้อเท็จจริง มาถึงตอนนี้หลังจากเลื่อนมาแล้วจะ 1 ปี แม้จะมีการระดมฉีดวัคซีนกันทั่วโลก แต่ตัวเลขของผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิต ยังคงสูงอยู่ ยังน่าเป็นห่วง
จึงเกิดความกังวลใจเป็นอย่างมากจากทุกฝ่าย ในการจัดโอลิมปิกที่กำลังจะมาถึง มีทั้งเสนอให้เลื่อนออกไปอีก และอีกส่วนก็อยากให้ยกเลิกไปเลย
เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
เฉพาะอย่างยิ่ง มีประชาชนชาวญี่ปุ่นสะท้อนความคิดเห็นผ่านโพลต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ว่าไม่ควรที่จะเดินหน้าต่อ
อีกส่วนถึงกับออกมาเดินประท้วงบนถนน ให้ยกเลิกการแข่งขันครั้งนี้ก็มี!!!
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นาโอโตะ อุเอยามะ หัวหน้าสหภาพแพทย์ญี่ปุ่น ถึงกับเรียกร้องให้ยุติการจัดโอลิมปิก โตเกียว
เพราะการเอาชนะโควิดจำเป็นต้องหยุดการเคลื่อนไหวพร้อมกับเตือนว่าการจัดโตเกียวเกมส์ ที่จะมีคนมากมายหลายหมื่นจาก 200 ประเทศทั่วโลกมารวมตัวกัน
อาจทำให้เกิดไวรัสโควิดสายพันธุ์ โตเกียว โอลิมปิก ขึ้นมาได้
และเราจะถูกประณามในอีก 100 ปีข้างหน้าว่า เป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลยของมนุษย์
ในขณะเดียวกัน การเลื่อนการแข่งขันโอลิมปิก โตเกียว 2020 ออกมา 1 ปี ก็มีตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สะท้อนออกมาให้เราได้ทราบด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว สำนักข่าวต่างประเทศให้ข้อมูลว่าโตเกียวเกมส์ที่เลื่อนมา คณะกรรมการจัดการแข่งขันต้องใช้งบประมาณสูงถึง 1.64 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 4.75 แสนล้านบาท
ต่อมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ มีการระบุว่าหากโอลิมปิก โตเกียว ต้องเลื่อนออกไปอีก รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องสูญเสียเงินถึง 6.4 แสนล้านเยน หรือประมาณ 1.85 แสนล้านบาท
หนักกว่านั้น หากต้องยกเลิกจะเสียหาย 4.5 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท เลยทีเดียว
จากนั้นเดือนมีนาคมก็มีการแสดงตัวเลขอีกครั้งว่าถ้าเกมนี้ไม่เป็นไปตามแผนจะเกิดความสูญเสียถึง 6-7 แสนล้านเยน หรือประมาณ 1.74-2.03 แสนล้านบาท
และล่าสุด เมื่อเดือนพฤษภาคม นักเศรษฐศาสตร์ญี่ปุ่นเตือนว่าตัวเลขได้ขยับขึ้นหลายเท่า ญี่ปุ่นอาจสูญเงิน 1.8 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 5.25 แสนล้านบาท หากกีฬาโอลิมปิก โตเกียว ถูกยกเลิก
แต่ก็ยังถือว่าเป็นส่วนน้อย เมื่อเทียบกับความเสียหายทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้น หากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิดรอบใหม่
โดย ทาคาฮิเดะ คิยูชิ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยโนมูระ และอดีตคณะกรรมการบริหารของธนาคารแห่งชาติของญี่ปุ่น ให้ความเห็นไว้ว่าหากการแข่งขันโอลิมปิกกรุงโตเกียว ทำให้เกิดการระบาดรอบใหม่ ซึ่งนำไปสู่การประกาศภาวะฉุกเฉินอีกครั้ง
ความเสียหายทางเศรษฐกิจจะมีมูลค่ามหาศาล เมื่อเทียบกับการยกเลิกการแข่งขัน
เรียกได้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่มองต่างมุมกันไป คณะกรรมการจัดงานก็มีความตั้งใจ อยากให้โอลิมปิก โตเกียว 2020 บ่งบอกถึงความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยวางมาตรการต่างๆในการป้องกันโควิด-19 ไว้อย่างเข้มงวด
และหากจัดการแข่งขันได้ ผ่านพ้นไปได้ ก็จะเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะเหนือโรคร้าย
แต่ในด้าน ของประชาชนคนทั่วไปก็มีความห่วงใย ไม่อยากให้มีคนจำนวนมากมารวมตัวกัน เช่นเดียวกับแพทย์ ก็กังวลว่าโตเกียวเกมส์อาจกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ได้
ส่วนเศรษฐกิจ ปากท้องก็มีความสำคัญ จะเห็นได้ว่าหากไม่เดินหน้าจัดก็จะเกิดความเสียหาย ตามมาอีกมาก เจ้าภาพญี่ปุ่นลงทุนลงแรงไปไม่น้อย ถ้ายกเลิกไปเลยก็จะเสียเงินไปเปล่าๆ ไม่ได้อะไรติดมือ แต่หากจัดได้ ก็จะทำให้เสียหายน้อยหน่อย
แต่ก็ยังมีเรื่องเกี่ยวพันเพิ่มขึ้นมา ถ้าหากเกิดการติดเชื้อจากการรวมตัวกันของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาจากทั่วโลก ก็จะทำให้เศรษฐกิจแย่ หรือถึงกับพังไปเลยอีก
หลากหลายด้านที่กล่าวมา มีความก้ำกึ่งทั้งหมด ผลของการจัดได้ หรือไม่ได้ จัดได้แล้วเป็นอย่างไร จะเป็นดัชนีชี้วัด เป็นทางแยกที่สำคัญ
โอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่กำลังจะเริ่มในอีกไม่กี่วัน
จึงถือว่าเดิมพันสูงมากๆ…
กัญจน์ ศิริวุฒิ เรื่อง