ซึ่งจะเปิดฉากด้วยรายการ “โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 12 – 17 มกราคม ต่อด้วยรายการ “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 19 – 24 มกราคม และ “เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020” ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างวันที่ 27 – 31 มกราคม ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดผ่าน 3,000 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ส่วนในประเทศไทย ทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดให้แฟนกีฬาได้รับชมทุกวันๆ ละ 2 สนาม
จากการที่ทางการจีนเข้มงวดไม่อนุญาตให้ประชาชนออกนอกประเทศ ทำให้ทีมแบดมินตันจีนต้องผิดหวังหมดสิทธิลงชิงชัย 3 รายการใหญ่ที่ไทย ตามด้วย เคนโตะ โมโมตะ นักแบดมินตันชายเดี่ยวมือ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ทั้งๆ ที่ทีมนักกีฬาจากญี่ปุ่นเตรียมที่จะเดินทางออกจากสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อมายังประเทศไทย ก่อนตัดสินใจประกาศถอนตัวจากการแข่งขันเป็นชาติที่สอง โดยยังคงมีนักกีฬาจาก 22 ประเทศเข้าร่วมชิงชัย
จากการแจ้งถอนทีมแบบกระชั้นชิดเนื่องจากเหตุจำเป็นของ 2 ชาติมหาอำนาจในวงการขนไก่โลกทำให้สายการแข่งขันจะต้องมีการขยับรายชื่อนักกีฬาที่ส่งรายชื่อสำรองเอาไว้ขึ้นมาทดแทน แต่ด้วยเหตุผลที่นักกีฬาจะต้องมาเข้ารับการกักตัวหรือบับเบิ้ลควอลันทีนภายในวันที่ 4 ม.ค. ทำให้นักกีฬาจากต่างประเทศที่ส่งรายชื่อสำรองไว้ไม่สามารถเดินทางมาได้ทันเวลา
ส่งผลให้บรรดานักกีฬาดาวรุ่งจากประเทศไทยจำนวนมากได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตกับการก้าวข้ามขึ้นมาลงสนามแข่งขันในระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 เพราะหากในสถานการณ์ปกติบรรดานักกีฬาดาวรุ่งเหล่านี้จะต้องไปไล่เก็บคะแนนสะสมเพื่อขยับอันดับโลกในระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 100 หรือเต็มที่ในระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ซึ่งครั้งนี้จะเป็นประสบการณ์ที่นักกีฬาดาวรุ่งจะได้ลงประชันกับมือระดับท็อปของโลกในบรรยากาศแข่งขันระดับโลก เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์นำไปปรับปรุงแก้ไขพัฒนาฝีมือต่อไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาทีมแบดมินตันไทยในอนาคต
สำหรับนักกีฬาดาวรุ่งจากประเทศไทยที่รับโอกาสแข่งขันในระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 เป็นครั้งแรกประกอบไปด้วย หญิงคู่พี่น้อง เบญญาภา กับ นันทกานต์ เอี่ยมสอาด ดีกรีหญิงคู่แชมป์ประเทศไทยปีล่าสุด, ชาสินี โกรีภาพ, เฌอย์นิชา สุดใจประภารัตน์, ศุภนิดา เกตุทอง, อทิตยา โปวานนท์, ลักษิกา กัลละหะ, ณัฐชนันพร รุ่งพิบูลโสภิษฐ์, อรณิชา จงสถาพรพันธุ์, ศิรดา รุ่งพิบูลโสภิษฐ์, ศุภิสรา เพียวสามพราน, ตนุภัทร วิริยางกูร, กิตติพงศ์ อิ่มนาค, สุรสิทธิ์ อริยะบารนีกุล, วรภพ ชื่นค้า, ณัฐชนน ตุลาโมกข์, สุภัค จอมเกาะ และ อภิรักษ์ เกตุระหงษ์
ทาง โค้ชท๊อป-ภควัฒน์ วิไลลักษณ์ อดีตนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย ผู้ฝึกสอนจากสโมสร เคไอพี แบดมินตันคลับ ได้โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัวขอบคุณ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ว่า “ต้องขอขอบพระคุณ คุณหญิงปัทมา และทีมงานเจ้าหน้าที่สมาคมทุกๆ ท่าน ที่คอยประสานงาน และดูแลนักกีฬาเป็นอย่างดี ทั้งนี้นักกีฬาในทีม นอกจาก หมิว พรปวีณ์ แล้ว ยังมีนักกีฬาดาวรุ่ง อายุ 16 ปี ได้รับโอกาสลงเล่นในการแข่งขันนี้ จึงเป็นโอกาสที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ผมได้บอกกับเด็กๆ ว่า มีเงิน 10 ล้าน 100 ล้าน ปกติก็ไม่สามารถเล่นรายการนี้ได้ เพราะปกติมีแต่มือ 1-32 ของโลก”
“จึงขอขอบพระคุณคุณหญิงปัทมา และสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ ที่ทำให้เด็กๆ มีโอกาสได้ลงเล่น และได้มาสัมผัสนักกีฬาระดับโลกและที่สำคัญที่สุด สมาคมดูแลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าโรงแรม ค่าอาหาร ค่าตรวจโควิด บริการซักผ้า มีอาหารให้ครบ 3 มื้อ ดูแลอย่างดีมากๆ ครับ ขอบพระคุณมากๆ ครับ”
เผยแพร่: 2 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.