เปิดบันทึกความประทับใจ จากนักตบโลก ใน 3 ศึกขนไก่ประวัติศาสตร์

เสร็จสิ้นไปแล้ว สำหรับศึกแบดมินตันครั้งประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 3 รายการใหญ่ระดับโลกติดต่อกัน 3 สัปดาห์ ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี

 ตลอดเดือนที่ผ่านมา ทัพนักแบดมินตันระดับโลกตบเท้าเข้ากักตัวภายใต้ระบบบับเบิ้ล ควอรันทีน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโดยกระทรวงสาธารณสุขไทยอย่างเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. จนเสร็จสิ้นการแข่งขัน มีทีมแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาดูแลเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในบับเบิลตลอดระยะเวลา

 ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขัน โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น, โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น และ เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020 ภายใต้มาตรการในรูปแบบนิวนอร์มอล โดยไม่อนุญาตให้แฟนแบดมินตัน และผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสนามโดยเด็ดขาด

  ความสำเร็จนี้ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ หัวเรือใหญ่ กล่าวชื่นชมและขอบคุณ การจัดการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ ครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งดำเนินการภายใต้มาตรการ บับเบิ้ล ป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก รัฐบาล และเอกชน ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ เป็นอย่างดี จนได้รับการยอมรับ 

 นอกจากนี้ โธมัส บาค ประธานไอโอซี ยังขอให้ฝ่ายไทย ช่วยส่งต้นแบบการจัดแบดมินตัน โดยเฉพาะรายละเอียดมาตรการบับเบิ้ล ที่ได้ผลดี ในการป้องกันโควิด-19 ให้กับ จอห์น โคท ประธานคณะกรรมาธิการประสานงานโอลิมปิก โตเกียว 2020 ของไอโอซี เพื่อเป็นต้นแบบให้กับ “โตเกียวเกมส์”

 ไม่เพียงแต่เท่านี้่ สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ก็เตรียมปรับรูปแบบการแข่งขัน ลูกยางเนชันส์ ลีก 2021 ให้เป็นแบบ บับเบิ้ล เหมือนที่ไทย จัดการแข่งขันแบดมินตัน เพื่อลดการเดินทางไปในแต่ละประเทศ แต่ละสัปดาห์ เหมือนที่เคยจัดมา ที่สำคัญเพื่อความปลอดภัยของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ทุกคน โดยยังคงให้สิทธิ์ 16 ทีม เข้าร่วมชิงชัยเหมือนเดิม แต่จะให้มีชาติเดียวในการเป็นเจ้าภาพ  

 ตลอดเวลานับเดือนในการอยู่ในประเทศไทยในสถานการณ์ของ “โควิด” ที่ระบาดหนัก เหล่านักตบลูกขนไก่โลกต้องใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กล่าวถึงความรู้สึกและความประทับใจนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่วันแรก จนกระทั่งใกล้ถึงวันที่ต้องอำลากลับประเทศของตนหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันมาตลอดทั้งเดือน

 แชมป์ “เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020” ไต้ จือ อิ่ง หญิงเดี่ยวมือ 1 ของโลกจากไต้หวัน

 “ตัวเองไม่ได้เดินทางมานานมากแล้ว เพราะสถานการณ์ทั่วโลกนั้นประสบปัญหาโควิด-19 ตั้งแต่ทีแรกที่มองเห็นเลยว่าการเตรียมพร้อมในการจัดงานในครั้งนี้ ต้องบอกว่าประทับใจ และทำให้รู้สึกปลอดภัยมาก ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ในเรื่องของเส้นทางการเดินลงมาจากเครื่องบินจนถึงโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความปลอดภัย ยิ่งพอมาถึงสนามซ้อมและสนามแข่งขันทำให้รู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่และทีมงานต้องใส่ชุดป้องกันที่หนาแน่น ทำให้เข้าใจในทันทีเลยว่าทีมงานทุกคนนั้นทำงานกันอย่างหนักมาก เพื่อที่จะให้การแข่งขันทั้ง 3 รายการนี้เกิดขึ้นมา”

 ด้าน 2 แชมป์แรก “โยเน็กซ์ และ โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น” คาโรลิน่า มาริน หญิงเดี่ยวมือ 6 ของโลกจากสเปน กล่าวสั้นๆ แต่ได้ใจความ

 “อยากจะขอขอบคุณสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ที่ได้จัดการแข่งทั้ง 3 รายการนี้ขึ้นมา ทุกอย่างที่ดำเนินการนั้นออกมาสมบูรณ์แบบมากในสถานการณ์โลกที่เป็นแบบนี้”

 ส่วน “โจว เทียนเฉิน” ชายเดี่ยวมือ 2 ของโลกจากไต้หวัน ที่พลาดทุกแชมป์ กล่าวว่า

 “สำหรับผม คิดว่าประเทศไทยทุกคนนั้นน่ารักมาก ทุกๆ คนที่เจอใจดีทุกคน ไม่ว่าจะเป็นทีมงานจัดการแข่งขัน ทุกคนที่โรงแรม ไม่ว่าขอให้ช่วยอะไร ได้ความช่วยเหลือทุกครั้ง ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายผมมีความสุขมาก ส่วนในเรื่องของการป้องกันโควิด-19 ต้องบอกเลยว่าผู้จัดการแข่งขันทำได้ดีมาก ดีจริงๆ ทุกที่ที่ไปต้องใส่หน้ากากอนามัย ไม่ว่าจะเป็นที่สนามซ้อม สนามแข่ง และในโรงแรม แม้แต่ในลิฟท์ยังมีการทำความสะอาดปุ่มกดตลอดเวลา ผมรู้เลยว่าพวกเขาทำงานกันหนักมาก และขอขอบคุณทีมผู้จัดการแข่งขัน สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ที่ทำให้ทำการแข่งขันทั้ง 3 รายการออกมาได้ดีเยี่ยม”

 ในความรู้สึกของ “วิคเตอร์ อเซลเซ่น” ชายเดี่ยวมือ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก เข้าชิง 3 และได้ไป 2 แชมป์กล่าวว่า

 “อยากจะขอบคุณรัฐบาลไทย สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย และ  BWF ทั้งนี้กฏและระเบียบในการอยู่ในบับเบิ้ลนั้นเข้มงวดมาก ทำให้รู้สึกปลอดภัย ผมอยากจะขอขอบคุณทุกๆ คนที่ทำให้การแข่งขันทั้ง 3  รายการนี้เกิดขึ้นได้”

  ชายคู่จอมเก๋า “โมฮาเหม็ด อัสซาน กับ เฮนดร้า เซทเทียวาน” มืออันดับ 2 ของโลกจากอินโดนีเซีย

 “ก่อนอื่นเลยอยากจะขอบคุณสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ที่สามารถจัดการแข่งขัน 3 รายการใหญ่นี้ได้สำเร็จ สำหรับผมมองว่ามันไม่ใช้เรื่องง่าย และที่สำคัญเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัย และระบบการป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ส่วนในเรื่องของโรงแรมก็สะดวกสบาย และมีทีมทหารดูแลความปลอดภัย แม้กระทั่งการเดินทางไปสนามซ้อมและสนามแข่งขันก็มีตำรวจนำทางไปตลอด ทำให้พวกเราทั้งสองรับรู้ถึงความใส่ใจในนักกีฬาให้มีความสะดวกสบายและปลอดภัย ทำให้พวกผมทั้งสองคนมีความมั่นใจ”

 
 มาถึงยอดชายคู่ทริปเบิ้ลแชมป์ “หลี่ หยาง กับ หวัง ชิหลิน” ชายคู่มืออันดับ 7 ของโลกจากไต้หวัน

 “ในการแข่งขันแบดมินตันในประเทศไทยในครั้งนี้บอกได้เลยว่า ผมรู้สึกค่อนข้างสบายใจและปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องโควิด-19 สามารถโฟกัสในเกมการแข่งขันโดยที่ไม่ต้องกังวลอะไรเลย” หลี่ หยาง กล่าว

 ส่วน หวัง ชิหลิน กล่าวว่า “ผมมีความรู้สึกสะดวกสบายในการใช้ชีวิตช่วงที่อยู่ในบับเบิ้ลที่นี้ โรงแรมที่พักมีความรู้สึกปลอดภัย และขอบคุณมากๆ ที่ทำให้ผมมีโอกาสในการเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ การแข่งขันใน 3 รายการใหญ่ในประเทศไทยครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งของผม” 

  ด้านนักตบจากฝรั่งเศส “ทอม กีเซล กับ เมลฟิน เดอรูร์” คู่ผสมมืออันดับ 15 ของโลกจากฝรั่งเศส

“ผมรู้สึกว่าปลอดภัยในทุกๆ การเดินทางที่เซอร์ไพรส์ผมมากที่มีตำรวจนำขบวนของเรา ทำให้ผมรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก และอาหารการกินก็ดีมากสำหรับผม” ทอม กีเซล กล่าว

“ฉันอยากจะขอบคุณทีมงานจัดการแข่งขันที่มีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี ซึ่งก่อนที่จะมาฉันรู้สึกกังวลกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พอสมควร แต่พอมาถึงรู้สึกปลอดภัยและประทับใจมากกับการจัดการทุกอย่าง รู้สึกปลอดภัย อาหารอร่อย และโรงแรมก็สะดวกสบายด้วย อยากจะบอกว่าประทับใจทุกอย่างเลย” เมลฟิน เดอรูร์ กล่าว

  ส่วนฝั่งของนักแบดมินตันไทย “กิ๊ฟ-จงกลพรรณ กิติธารากุล” กับ “วิว-รวินดา ประจงใจ” หญิงคู่มืออันดับ 11 ของโลก

“สิ่งที่เราทั้ง 2 คนประทับใจสำหรับการแข่ง 3 รายการ ก็ประทับใจตั้งแต่วันแรกเลยที่ก่อนเข้าพักทุกคนต้องผ่านการตรวจโควิดก่อนจะเข้าพักในโรงแรมซึ่งเป็นมาตราการที่เข้มงวดมาก ส่วนในเรื่องของรถรับส่งก็ทำได้ดีมาก มีการจัดการรถเป็นรอบๆ รถใครรถมันเพื่อไม่ให้นักกีฬาแต่ละประเทศนั้นเจอกันเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 รู้สึกปลอดภัยมากๆ ส่วนการจัดรายการแข่งขัน ทั้ง 3 รายการถือว่าเป็น 3 รายการของประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เฉพาะของประเทศไทย แต่เป็นของทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นไปได้ยากมากที่จะสามารถจัดการแข่งขันครั้งนี้ขึ้น แต่สิ่งที่ยากกว่านั้นคือเราสามารถจัดขึ้นได้อย่างปลอดภัย”

 
 ปิดท้ายด้วย “เมย์-รัชนก อินทนนท์” หญิงเดี่ยวมืออันดับ 5 ของโลก ที่ทำได้ดีที่สุดคือในรอบรองชนะเลิศในสองรายการส่งท้าย

“อยากจะขอบคุณ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ศบค. และหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานที่ทำให้มี 3 รายการนี้เกิดขึ้นมาทั้งที่สถานการณ์โควิด-19 ยังคงระบาดอยู่นี้ ทำให้นักกีฬาไทยได้มีโอกาสได้ลงแข่งขันในรายการซูเปอร์ 1000 ขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่สามารถทำให้นักกีฬาแบดมินตันไทยและนักกีฬาแบดมินตันต่างชาติได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันรายการใหญ่ทั้ง 3 รายการนี้”

 สุดท้ายแห่งความประทับใจ ที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของชาติ นอกเหนือจากลายเสื้อนักกีฬาทีมชาติไทยและผู้ตัดสินภายใต้ผลิตภัณฑ์ “โยเน็กซ์ ” แบรนด์กีฬาชั้นนำของโลก ฉลองครบรอบ 75 ปี อย่างยิ่งใหญ่ด้วยการออกแบบชุดแข่งขันนักแบดมินตันทีมชาติไทย เป็นลายไทยสดงาม จากฝีมือของ “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ศิลปินแห่งชาติ ชาวเชียงราย

 นั่นคือการไหว้ของนักกีฬาทุกชาติที่สร้างความประทับใจไปทั่วโลก