เชียร์รัชนกดวลไถ้วันนี้ เปิดสถิติน้องเมย์เหนือกว่ามือ1โลก ลุ้นเข้าชิงแบดโตโยต้าฯ

การแข่งขันแบดมินตันรายการที่ 2 โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 30,100,000 บาทที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ภายใต้มาตรการในรูปแบบ New Normal โดยจะไม่อนุญาติให้แฟนแบดมินตัน และผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสนามโดยเด็ดขาด

       โปรแกรมของนักแบดมินตันไทยในวันเสาร์ที่ 23 ม.ค.64 ได้เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว  ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ประเภทหญิงเดี่ยวคู่บิ๊กแมตช์ที่แฟนๆแบดมินตันรอคอย  “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มืออันดับ 5 ของโลก พบกับ ไถ้ ซื่อหยิง มืออันดับ 1 ของโลก สำหรับสถิติการพบกันทั้งหมดของทั้งคู่ทั้งหมด 27 ครั้ง เป็นเมย์ รัชนก ทำได้ดีกว่าเอาชนะไปได้ 14 ครั้ง ครั้งล่าสุดที่พบกันในศึกเวิลด์ทัวร์ ไฟนอลรอบแบ่งกลุ่มเป็น ไถ้ ซื่อหยิง เอาชนะไปได้ 2-1 เกม โดยคู่นี้จะแข่งขันเป็นคู่ที่ 8 แข่งขันเวลาประมาณ 18.00 น. 

    ประเภทคู่ผสมรอบก่อนรองชนะเลิศ  “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 3 ของโลก  พบกับ  ซาวีไซราท รานกิเรดดี้ กับ อาชวีนี่ พอนนัพพา สำหรับสถิติในการพบกันระหว่างคู่ของ เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี กับทางด้าน ซาวีไซราท รานกิเรดดี้ กับ อาชวีนี่ พอนนัพพา ก่อนหน้านี้เคยพบกันมาทั้งหมด 2 ครั้ง เป็นทาง เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี ที่ทำผลงานได้เหนือกว่าเก็บชัยชนะไปได้ทั้งหมด ล่าสุดในศึก เจแปน โอเพ่น 2019 เดชาพล กับ ทรัพย์สิรี เอาชนะมาได้ 2-0 เกม โดยคู่นี้จะแข่งขันเป็นคู่ที่ 9 แข่งขันเวลาประมาณ 19.00 น. 

    นอกจากนี้ยังมีประเภทหญิงเดี่ยว อีกหนึ่งคู่ที่สนุกไม่แพ้กัน คาโรลิน่า มาริน มืออันดับ 6 ของโลก ดีกรีแชมป์โลกจากสเปน จะได้ดวลกับ อัน เซยอง ดาวรุ่งมือ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้ ซึ่งพึ่งจะพบกันมาในรอบรองชนะเลิศในรายการโยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว  รวมไปถึงชายคู่ โมฮาเหม็ด อัสซาน กับ เฮนดร้า เซเทียวาน  คู่มืออันดับ 2 ของโลกเจ้าของแชมป์โลก 3 สมัย จากอินโดนีเซีย พบกับ ลี่ หยาง กับ หวัง ฉีหลิน คู่มืออันดับ 7 ของโลกจากไต้หวัน

     แฟนๆแบดมินตันสามารถเชียร์ และให้กำลังใจทัพขนไก่ไทยผ่านการถ่ายทอดสดได้หลากหลายช่องทางทั้ง ทรูวิชั่นส์, ทรูโฟร์ยู, ทรู ยูทูป, ทรู เฟซบุ๊ก และทรูไอดี โดยทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดทุกคู่การแข่งขัน ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป ผ่านทาง Truesports HD3 ช่อง 668 และ Truesports 7 ช่อง 686 และรับชมผ่านทางทรูโฟร์ยู (TRUE4U) เฉพาะคู่ที่นักกีฬาไทยลงทำการแข่งขันทุกวัน  โดยในวันเสาร์ (23 ม.ค.) ระหว่างเวลา 16.30 – 20.00 น.