ส่องผลงานหวิว “นางโมราอาทิตย์อุทัย” วางยาฆ่าสามีเศรษฐี

นางแบบสาววัย 25 ปีวางยาพิษฆ่าสามีเศรษฐี เส้นทางชีวิตของเธอพลิกผันจากนักแบดมินตันทีมโรงเรียน สู่ดารา AV จนได้เป็นภรรยาของเศรษฐีวัยชรา เจ้าของฉายา “ดอนฮวนผู้พิชิตหญิงสาว 4,000 คน” แต่วันนี้เธอถูกดำเนินคดี และตราหน้าว่าเป็น “หญิงแพศยา”

“ซากิ ซูโด” ถูกตำรวจจับกุม หลังพบหลักฐานว่า เมื่อ 3 ปีก่อน เธอใช้ยากระตุ้นประสาททำให้นาย “โคซูเกะ โนซากิ” สามีที่เพิ่งแต่งงานกันได้เพียง 3 เดือน เสียชีวิตในคฤหาสน์หรูที่จังหวัดวากายามะ

อ่านข่าว: เมียสาวญี่ปุ่นอดีตดาราAV วางยาฆ่าสามีเศรษฐีเฒ่า

ชาวญี่ปุ่นได้ขุดคุ้ยเบื้องหลังของหญิงสาวที่ยอมแต่งงานกับเศรษฐีที่อายุต่างกันถึง 55 ปี และพบว่าเธอเคยทำงานบริการในคลับไฮโซ และเคยมีผลงานภาพยนตร์วาบหวิวอย่างน้อย 4 เรื่อง

ซากิ ซูโดเป็นชาวฮอกไกโด สมัยชั้นมัธยมเธอเคยเป็นนักนักแบดมินตันทีมโรงเรียน เพื่อนๆ บอกว่า เธอเป็นคนเงียบๆ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น แต่พอขึ้นชั้นมัธยมปลาย เธอก็เปลี่ยนไปอย่างมาก กลายเป็นคนชอบแต่งตัว โอ้อวด และโกหก เธอบอกว่าพ่อแม่เป็นหมอ ให้เงินเธอใช้เดือนละ 1 ล้านเยน แต่ความจริงแล้วพ่อของเธอเป็นแค่พนักงานบริษัทธรรมดาเท่านั้น

ยิ่งเมื่อเข้าเรียนในโรงเรียนวิชาชีพ เธออวดภาพกระเป๋าแบรนด์เนม และภาพไปเที่ยวต่างประเทศในสื่อสังคมออนไลน์อยู่บ่อยๆ จนเพื่อนๆ สงสัยว่าเธออาจ “รับจ็อบ” เป็นสาวไนท์คลับหรือถ่ายหนัง AV เธอถูกพบว่า ในปี 2560 เธอเคยแสดงหนังวาบหวิว โดยใช้ชื่อว่า “ยูริกะ” และเป็นนางแบบแฟชั่น ทำให้เธอรู้จักกับเศรษฐีวัยชรา ผ่านทางบริษัทโมเดลลิ่ง และได้แต่งงานกันแบบสายฟ้าแลบ โดยหลังจากแต่งงาน เธอก็ยุติงานแสดงวาบหวิว และทำงานเป็นนางแบบเท่านั้น

แต่พ่อแม่และคนในครอบครัวกลับไม่รู้เรื่องการแต่งงานของเธอเลย เธอกลับบ้านที่ฮอกไกโดเดือนละ 1 ครั้ง และไปคนเดียว ไม่เคยพูดถึงว่าแต่งงานแล้ว

วันที่ 24 พฤษภาคม 2561 นายโคซูเกะ โนซากิ ถูกพบว่าเสียชีวิตภายในบ้าน โดยซากิ ซูโดที่เพิ่งแต่งงานได้เพียง 3 เดือนเป็นคนเดียวที่อยู่กับผู้ตายในช่วงเวลาเกิดเหตุ

ซากิ ซูโดไม่ได้มีท่าทีเสียใจอะไร หลังพิธีศพเธอยังใช้สิทธิ์ในฐานะภรรยาเข้ารักษาการตำแหน่งประธานบริษัทของสามี โดยที่ยังไม่ได้นัดประชุมกรรมการบริษัทหรือดำเนินการทางกฎหมายเลย เธอยังได้ใช้ตำแหน่งโอนเงินของบริษัทกว่า 38 ล้านเยนเข้าบัญชีส่วนตัว จนเมื่อผู้ตรวจสอบของบรัทพบเข้า จึงได้ฟ้องร้องดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์

นอกจากนี้ ตามกฎหมายของญี่ปุ่น ภรรยาจะต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของสามี ถึงแม้สามีจะเสียชีวิตก็ยังใช้นามสกุลสามีต่อไปได้ แต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว ซากิ ซูโด ได้เปลี่ยนนามสกุลกลับไปใช้นามสกุลเดิมของเธอ บรรดาญาติและเพื่อนฝูงของเศรษฐีเฒ่าผู้ล่วงลับต่างพากันบอกว่า เห็นได้ชัดว่าเธอแต่งงานไม่ใช่เพราะ “รักคน” แต่เพราะ “รักเงิน”.

ย้อนอ่านเรื่องของ นายโคซูเกะ โนซากิ ผู้เริ่มต้นจากการเก็บขยะเศษเหล็ก และขายถุงยางอนามัย จนกลายเป็นเศรษฐีผู้เจ้าชู้

ได้ที่ “ดอน ฮวน แห่งคิชูเคยมีสัมพันธ์กับสาวสวยกว่า 4,000คน ?! “