นายกสมาคมแบดมินตันไทย ยกนิ้วฟอร์มการเล่นของทั้ง “ครีม” บุศนันทน์ และ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กับ “วิว” รวินดา ที่ควงคู่ซิว 2 แชมป์ที่ฝรั่งเศส ได้ลุ้นตั๋วไปลุยโอลิมปิกเกมส์ที่ญี่ปุ่น ยังเหลือแข่งเก็คะแนนอีกสามสนาม
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ในรอบชิงชนะเลิศ แบดมินตันที่ฝรั่งเศส ผลปรากฏว่า สาวไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าดับเบิ้ลแชมป์ในประเภทหญิงเดี่ยวและหญิงคู่ โดยเริ่มจากหญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กับ “วิว” รวินดา พบกับคู่ปรับเก่า 2 พี่น้องจากบัลแกเรีย ซึ่งเป็นการแย่งชิงการเป็นอันดับ 8 ในอันดับคะแนนสะสมมุ่งสู่การแข่งขันโอลิมปิก โตเกียว 2020 ซึ่งการพบกันครั้งล่าสุดของทั้งคู่ ในรายการสวิสโอเพ่น รอบรองชนะเลิศ เป็น 2 พี่น้องจากบัลแกเรียเป็นฝ่ายเอาชนะคู่ของไทยไปได้ ที่สวิตเซอร์แลนด์
สำหรับรอบชิงชนะเลิศในวันนี้ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กับ “วิว” รวินดา สามารถเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยที่อดทนในแต้มที่ต้องเล่นโต้กันนานหลายลูก และเป็นฝ่ายกดดันให้ 2 พี่น้องจากบัลแกเรียต้องเร่งเกม และเป็นฝ่ายผิดพลาดเอง วันนี้คะแนนสะสมเพื่อมุ่งสู่โอลิมปิกของหญิงคู่ไทย เป็นมือวางอันดับ 8 ส่วน 2 พี่น้องจากบัลแกเรีย ตามมาเป็นมือวางอันดับ 9
ส่วนประเภทหญิงเดี่ยว “ครีม” บุศนันทน์ ต้องอาศัยประสบการณ์และความมุ่งมั่นทุ่มเท ก่อนพลิกชนะดาวรุ่งจากเดนมาร์กไปอย่างหวุดหวิด 2-1 เกม โดยตลอดเกมการเล่นทั้ง 3 เกม นักแบดมินตันจากเดนมาร์ก อาศัยรูปร่างสูงยาวและความเร็วเป็นฝ่ายบุกใส่ “ครีม” บุศนันทน์ อยู่ตลอด แต่ในที่สุดสาวไทย สามารถพลิกสถานการณ์ กลับมาเป็นฝ่ายชนะได้อย่างหวุดหวิด คว้าแชมป์ไปได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในรอบ 4 ปี
นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ กล่าวชื่นชมผลงานของนักแบดมินตันสาวไทยทั้ง 3 คน ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ขอชื่นชม “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กับ “วิว” รวินดา สามารถทำตามแผนได้เป็นอย่างดี สามารถต้านการบุกและเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้ยอดเยี่ยมในหลายคะแนน หญิงคู่ของไทย มีคะแนนนำอันดับ 9 ประมาณ 2,000 คะแนน ซึ่งยังเหลือรายการที่ทั้ง 2 คู่ยังต้องทำการแย่งชิงอันดับ 8 อีก 3 รายการที่เหลือในทวีปเอเชีย จึงต้องลุ้นให้ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กับ “วิว” รวินดา ทำผลงานให้ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อรั้งอันดับ 8 ในการเป็นมือวางในการแข่งขันโอลิมปิก และขอชื่นชม “ครีม” บุศนันทน์ ด้วยประสบการณ์ เกมรับที่ยอดเยี่ยม และความแข็งแรงของร่างกาย สามารถพลิกสถานการณ์ กลับมาเป็นฝ่ายชนะได้
ต้องยอมรับว่า การแข่งขันรายการนี้ นักกีฬาต้องเดินทาง และพักอยู่ในยุโรปกว่า 4 สัปดาห์ ต้องดูแลตนเองให้ห่างจากโควิด-19 และยังต้องรักษาสภาพร่างกายให้ฟิตสมบูรณ์ กับการตระเวณแข่งขันที่ยาวนาน ซึ่งจากผลการแข่งขันที่ออกมา แสดงให้เห็นถึงสภาพความพร้อมของนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และทีมวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่ช่วยกันเตรียมความพร้อมให้นักกีฬาทั้งด้านร่างกายและจิตใจ จนประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ได้ 2 ประเภทจากการแข่งขันที่ฝรั่งเศส
“นักกีฬาและทีมงานทุกคน จะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 30 มีนาคม และจะต้องเข้ากักตัวตามมาตรการของรัฐ 14 วัน หลังจากนั้น จึงจะสามารถออกมาฝึกซ้อม เพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันเก็บคะแนนโอลิมปิกอีก 3 รายการที่เหลือ ในเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน เริ่มจากที่อินเดียต่อด้วยมาเลเซีย และปิดท้ายที่สิงคโปร์ โดยนักกีฬาและทีมงานทุกคน จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 ครั้ง ก่อนออกเดินทางไปแข่งขัน ขอเป็นกำลังใจให้นักกีฬาแบดมินตันไทยทุกคน ประเมินผลงานตนเองและคู่แข่งขัน แก้ไขข้อบกพร่องตนเอง และแน่วแน่ซ้อมหนักต่อไปอย่างไม่ลดละ” คุณหญิงปัทมา กล่าวในตอนท้าย