'สวนสวยในป่าช้า' กลางเมือง

“แรก ๆ ที่เข้ามา ก็มีกลัวอยู่บ้างเวลาเลิกซ้อมดึก ๆ เพราะกว่าจะซ้อมเสร็จก็ประมาณ 2-3 ทุ่ม” กฤตภาส ไทยอุดม หรือครูก้อ ครูสอนเทควันโด เล่าให้ฟัง “สมัยมาแรก ๆ น่ากลัวกว่านี้ ตอนหลังมีการปรับปรุงพื้นที่ มีกิจกรรมต่าง ๆ เข้ามาเยอะ เราก็ไม่กลัวแล้ว”

ครูก้อ ซึ่งเข้ามาบุกเบิกเปิดสถาบัน ‘แต้จิ๋วเทควันโด’ ภายในพื้นที่สวนสุขภาพแต้จิ๋ว เล่าย้อนอดีตสมัยเข้ามาเปิดสอนช่วงแรก ๆ ประมาณปี 2550

ตำนานสยองขวัญแห่งป่าช้าวัดดอน เป็นที่เล่าขานกันมาอย่างยาวนาน เนื่องจากเป็นพื้นที่ฝังศพนับหมื่นศพ ตั้งแต่สมัยปลายรัชกาลที่ 5 แม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีการฝังศพแล้วก็ตาม แต่ตำนานความเฮี้ยนเรื่องการพบเจอภูตผีต่าง ๆ ยังถูกเล่าขานต่อ ๆ กันมา ขนาดที่ว่าในอดีตแม้แต่คนขับรถแท็กซี่ ยังไม่อยากผ่านมาส่งผู้โดยสารในบริเวณนี้

จนกระทั่งในปี 2539 สำนักงานเขตสาทรและสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ได้เริ่มเข้ามาพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนสาธารณะ ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ โดยใช้ชื่อใหม่ว่า “สวนสุขภาพแต้จิ๋ว” ภายใต้โครงการ “สวนสวยในป่าช้า” พัฒนาการใช้พื้นที่ร่วมกันระหว่างคนเป็นและคนตาย บนพื้นที่ 85 ไร่ หรือ 136,000 ตารางเมตร ในย่านสาทร

หลุมฝังศพแบบจีน ที่ชาวไทยจีนเรียกว่า ฮวงซุ้ย กระจายอยู่โดยรอบพื้นที่ภายในสวน ซึ่งรายล้อมด้วยชุมชนหลากเชื้อชาติและศาสนาอาศัยอยู่ รวมถึงพุทธ มุสลิม ฮินดู และชาวมอญ ทุกคนสามารถใช้พื้นที่ในสวนสาธารณะ เป็นพื้นที่พหุวัฒนธรรมร่วมกันผ่านกิจกรรมการกีฬาและสันทนาการมากมาย ตั้งแต่การวิ่งออกกำลังกาย แบดมินตัน ตะกร้อ เทควันโด้ หมากรุก จนถึงการรวมกลุ่มร้องเพลงคาราโอเกะ

ล่าสุด ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ได้มีนโยบายสร้าง ‘สวน 15 นาที ทั่วกรุง’ ซึ่งต้องการเพิ่มพื้นที่สาธารณะให้กระจายตัวอยู่ทุกมุมเมือง และประชาชนสามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินภายใน 15 นาที และยังได้เปิดคอนเสิร์ตในสุสานวัดดอนนี้ เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ปัจจุบันพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพ ยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการตามเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งกำหนดไว้ว่าเมืองใหญ่ ๆ ควรมีพื้นที่สีเขียวมากกว่า 9 ตารางเมตรต่อคน

การใช้พื้นที่ร่วมกันระหว่างคนเป็นและคนตาย ภายในสวนสุขภาพแต้จิ๋ว นับเป็นโมเดลตัวอย่างของความร่วมมือในการบริหารจัดการพื้นที่ของเอกชนเจ้าของพื้นที่ โดยสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย กับกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตสาทร ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลตัดหญ้าบริเวณฮวงซุ้ยอยู่เสมอ เพื่อใช้เป็นที่สาธารณประโยชน์

 

หญิงสาววิ่งออกกำลังกายยามเย็น ในสวนสุขภาพแต้จิ๋ว ที่เป็นพื้นที่ป่าช้าวัดดอนเดิม วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 (ศรุมณย์ นรฤทธ์/เบนาร์นิวส์)

 

ศาลาองค์ไต้ฮงกง เทพเจ้าประจำมูลนิธิแต้จิ๋ว ในสวนสุขภาพแต้จิ๋ว ที่อยู่ท่ามกลางตึกอาคารสูงใหญ่ใจกลางย่านธุรกิจ บนถนนสาทร วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 (ศรุมณย์ นรฤทธ์/เบนาร์นิวส์)

 

หญิงมุสลิมออกกำลังกายแบบ ‘โป๊ยตึ่งกิ้ม’ ซึ่งเป็นกายบริหารแบบโบราณของจีน วันที่ 29 กรกฎาคม 2565 (ศรุมณย์ นรฤทธ์/เบนาร์นิวส์)

 

รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม พระพรหม พระเกจิ จนถึงกุมารทอง วางตั้งไว้บูชาในสวนสุขภาพแต้จิ๋ว วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 (ศรุมณย์ นรฤทธ์/เบนาร์นิวส์)

 

กลุ่มผู้ชายเตะตะกร้อในยามเย็น หลังเสร็จสิ้นภารกิจประจำวัน วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 (ศรุมณย์ นรฤทธ์/เบนาร์นิวส์)

 

แบดมินตันเป็นกีฬายอดนิยม ในสวนสุขภาพแต้จิ๋ว ที่มีคนเข้ามาเล่นทั้งช่วงเช้าและเย็น วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 (ศรุมณย์ นรฤทธ์/เบนาร์นิวส์)

 

นักเรียนเทควันโด้ฝึกซ้อมกันอย่างจริงจัง ในกิจกรรมการฝึกสอน “แต้จิ๋วเทควันโด” ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2550 วันที่ 30 กรกฎาคม 2565 (ศรุมณย์ นรฤทธ์/เบนาร์นิวส์)

 

สมาชิกชมรมหมากรุก มักมาเล่นและพบปะพูดคุยกันเป็นประจำในช่วงเย็น วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 (ศรุมณย์ นรฤทธ์/เบนาร์นิวส์)

 

เด็กนักเรียนใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนเล่นบาสเก็ตบอล ภายในสวนสุขภาพแต้จิ๋ว วันที่ 24 กรกฎาคม 2565 (ศรุมณย์ นรฤทธ์/เบนาร์นิวส์)

 

ชายหนุ่มวิ่งออกกำลังกายในช่วงเย็น ซึ่งมีฮวงซุ้ยเรียงรายขนาบทางวิ่ง วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 (ศรุมณย์ นรฤทธ์/เบนาร์นิวส์)

 

สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา นำวงดนตรีมาร่วมแสดงในสวนสุขภาพแต้จิ๋ว เพื่อให้ทุกคนได้ฟังเพลงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย วันที่ 26 มิถุนายน 2565 (ศรุมณย์ นรฤทธ์/เบนาร์นิวส์)