มองอย่างเจี๊ยบ 2021 : ครบเรื่องดราม่า-ประเด็นร้อน ศึกขนไก่ ‘ออลอิงแลนด์’

พูดคุยทุกประเด็นร้อน และบทสรุปของการแข่งขันแบดมินตัน ออล อิงแลนด์ โอเพ่น 2021 กับ “อ.เจี๊ยบ” ธนัช อัศวนภากาศ รองเลขาธิการสมาคมแบดมินตันฯ และผู้บรรยายกีฬาแบดมินตัน ของทรูสปอร์ต

สวัสดีครับ!! แฟนๆแบดมินตันทุกท่าน คอลัมน์ “มองอย่างเจี๊ยบ” โดย “อ.เจี๊ยบ” ธนัช อัศวนภากาศ กลับมาพบกับทุกท่านแล้วในฉบับที่ 13 ซึ่งเป็นการพบกันหลังจากที่การแข่งขัน “ออล อิงแลนด์ 2021” รายการเวิลด์ทัวร์ ที่เก่าแก่และมีมนต์ขลังมากที่สุดในโลก จบลงไปเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันอาทิตย์ (21 มี.ค. 64) ที่ผ่านมา โดยต้องบอกว่า การแข่งขันในครั้งนี้ มีปัญหาและความดราม่าเกิดขึ้นพอสมควร ตั้งแต่ยังไม่ลงทำการแข่งขัน และระหว่างแข่งขัน จบเกือบทำให้ทัวร์นาเม้นต์ไม่จบเลยทีเดียว

แต่สุดท้ายแล้วทุกฝ่ายก็ฝ่าฝันให้การแข่งขันในครั้งนี้จบลงจนได้ โดยทัพนักกีฬาขนไก่จากญี่ปุ่น สร้างสรรค์ผลงานสุดยอดด้วยการเก็บแชมป์ไปถึง 4 ประเภท ซึ่งเป็นการเข้าชิงชนะเลิศชนิดที่พบกันเองอีกด้วย เรียกได้ว่า เป็นวันที่ขนไก่ญี่ปุ่นยึดเมืองเบอร์มิงแฮมเลยก็ว่าได้

ในสภาวะที่นักแบดมินตัน จีน , เกาหลีใต้ และ ไชนีส-ไทเป ส่วน อินโดนีเซีย ถูกสั่งให้ระงับการแข่งขันทุกคน-ทุกประเภทหลังจบรอบแรก ขณะที่ขนไก่ไทย ก็ได้มา 1 รองแชมป์ จากหญิงเดี่ยว อาจจะดูน้อยไปสักนิด แต่ต้องไม่ลืมว่ารายการนี้ ยังไม่เคยมีชาวไทยก้าวขึ้นไปถึงแชมป์เลย นับตั้งแต่แข่งขันมาจนครั้งนี้ ครั้งที่ 111

บทสรุปของการแข่งขัน รวมถึงความน่าสนใจของ “ออล อิงแลนด์” ครั้งนี้ เป็นอย่างไรบ้าง ไปคุยกับ “อ.เจี๊ยบ” ที่นั่งบรรยายเกมตั้งแต่วันแรกของกันแข่งขันจนถึงรอบชิงชนะเลิศกันครับผม

Q : สวัสดีครับ อ.เจี๊ยบ อันดับแรกเลย อยากให้ไล่เรียงไทม์ไลน์ของความโกลาหลและข่าวดราม่าที่เกิดขึ้นในการแข่งขันครั้งนี้ ที่เกือบจะไม่ได้แข่ง และเกือบแข่งไม่จบครับ ?

อ.เจี๊ยบ : ก็คงต้องไล่เรียงว่า มันเริ่มต้นจากการที่ก่อนแข่งเนี่ย มีเจ้าหน้าที่ , นักกีฬาจากบางประเทศมีผลตรวจโควิด-19 เป็น Positive + โดยปกติแล้วทาง Public Health และฝ่ายจัดการแข่งขันมีข้อกำหนดว่า หากชาติใดมีผู้ติดเชื้อ คนที่เหลือถือว่าเป็นผู้ใกล้ชิด จะต้องถอนตัวจากการแข่งขันทั้งคณะ แต่ก็ได้มีการร้องขอให้มีการตรวจอีกครั้ง ทำให้การแข่งขันวันแรกต้องล่าช้าออกไป เนื่องด้วยผลการตรวจครั้งที่สองยังไม่ออก การประชุมผู้จัดการทีมก็เกิดขึ้นไม่ได้ ก็เลยไม่รู้ว่าใครจะต้องถอนตัวบ้าง แต่ก็กลับมาแข่งขันกันได้นะครับ หลังจากที่ผลตรวจออกมาว่านักกีฬากลุ่มเสี่ยง ทั้ง 7 คนที่มาจาก มาเลเซีย , อินโดนีเซีย , ไทย และ เดนมาร์ก มีผลเป็นลบทั้งหมด ที่สุดแล้วข่าวร้ายยังไม่จบ เป็นข่าวดราม่า โดยช่วงค่ำของการแข่งขันวันแรก นักกีฬาอินโดนีเซีย ถูกพบว่าขึ้นเครื่องบินลำเดียวกับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่เดินทางมาเมืองเบอร์มิงแฮม ซึ่งก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นใครที่ไหน แต่ด้วยกฏของสาธารณสุขอังกฤษ ได้ยืนยันชัดเจนว่า คนที่ขึ้นรถ ขึ้นเครื่องบินลำเดียวกัน จัดเป็นบุคคลใกล้ชิด นั่นหมายความว่าทัพนักกีฬาอินโดฯ ถูกถอนออกจากการแข่งขันทั้งคณะ แม้บางส่วนจะลงเล่นรอบแรกไปแล้วก็ตามทีครับ 

Q : เกิดกระแสต่อว่าฝ่ายจัดการแข่งขันมากมายทั่วโลกในการถอดอินโดนีเซียออกจากการแข่งขัน ?

อ.เจี๊ยบ : ต้องเรียนว่าพวกเขาถูกถอนออกจากการแข่งขันในช่วงดึกวันแรก ซึ่งทางทีมงานก็พยายามจะใช้เวลาในช่วงคืนนั้นทำทุกวิถีทาง เพื่อให้กลับมาลงแข่งขันได้โดยมีการยืนยันว่า ทั้งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกคน ได้มีการฉีดวัคซีนมาครบ 2 โดส ตั้งแต่ก่อนเดินทางมาแล้ว แต่ที่สุดแล้วทางสาธารณสุข ก็ไม่อนุมัติ และตัดสินใจไม่ตรวจซ้ำ เพราะอย่างไรแล้วก็ไม่ทันที่จะแข่งขันในวันรุ่งขึ้นอยู่ดีครับ ด้วยความที่หากเป็นบุคคลใกล้ชิดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะต้องถูกแยกตัวเป็นเวลาถึง 10 วันด้วยครับ แต่ทางอินโดฯ ก็ประท้วงไปที่ BWF นะครับ ว่าทำไมไม่ใช้กฏแบบในช่วงที่ทำการแข่งขัน 3 รายการในประเทศไทย ประมาณว่า ถ้ามีคนใดมีผลเป็นบวก ก็แยกตัว ถอนจากการแข่งขัน ส่วนคนใกล้ชิด ก็จะมีการเทสต์ทุกวัน หากผลเป็นลบ ก็ยังทำการแข่งขันได้ ทางอินโดฯ ก็พยายามจะบอกใช้วิธีนี้ แต่ว่าทาง BWF ก็ไม่สามารถประสานได้ เนื่องด้วยการแข่งขันขึ้นอยู่ภายใต้สาธารณสุข และนโยบายของประเทศนั้นๆ ครับ

Q : ครั้งนี้เป็นการคัมแบ็คของนักกีฬาญี่ปุ่น แต่ว่าทางฝั่งจีนยังไม่มา รวมทั้ง เกาหลีใต้ และ ไชนีส-ไทเป ที่เคยลงเล่นมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่เข้าแข่งขันในครั้งนี้ เป็นเพราะอะไร ?

อ.เจี๊ยบ : นักกีฬาจากจีน ก็ยังต้องทำตามนโยบายของรัฐบาล ที่ยังไม่อนุญาตให้บุคลากรกีฬาทุกชนิดออกนอกประเทศ ส่วนนักกีฬาที่มาแข่งที่ประเทศไทย แต่ไม่ได้มาแข่งรายการนี้ ทั้ง เกาหลีใต้ และ ไชนีส-ไทเป ซึ่งตรงนี้ผมมองว่า เป็นเพราะ “ออล อิงแลนด์” ไม่ได้ใช้รูปแบบแข่งขันแบบบับเบิ้ล ทำให้ยังมีความเสี่ยงต่อนักกีฬา และผู้เกี่ยวข้อง อีกทั้งประเทศอังกฤษ ยังพบผู้ติดเชื้อโควิดฯ รายวันเป็นจำนวนมากอยู่ จึงทำให้ เกาหลีฯ และ ไทเป เลือกที่จะไม่ส่งนักกีฬามาแข่งขันครับ

Q : อยากให้พูดถึงภาพรวมของทัพนักกีฬาญี่ปุ่น ที่ประกาศศักดาคว้าแชมป์มาถึง 4 ประเภท ทั้งที่ไม่ได้ลงแข่งแมตช์ทางการมาแรมปี อีกทั้งยังเป็นการการันตีตั้งแต่จบรองรองชนะเลิศอีกด้วย ?

อ.เจี๊ยบ : ความจริงแล้ว มันมีหลายองค์ประกอบเกื้อหนุนกันนะครับ แน่นอนแหละ ศักยภาพของทั้ง 4 ประเภท ที่เข้าไปชิงชนะเลิศ ทุกคนสามารถเป็นแชมป์ได้ทั้งหมดเลยครับ ยิ่งไปกว่านั้นคือการที่ไม่มี จีน , เกาหลีใต้ , ไชนีส-ไทเป และ อินโดนีเซีย ซึ่งเป็น 4 ชาติมหาอำนาจอีก เลยยิ่งทำให้นักกีฬาปลาดิบพาเหรดกันเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศกันเป็นทิวแถว แต่โดยภาพรวมจริงๆแล้ว ผมมองว่านักกีฬาบางคนก็ยังไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดนะ ด้วยการที่หยุดการแข่งขันกันไปนานมาก เช่น เคนโตะ โมโมตะ (14 เดือน) ก็ยังไม่สามารถดึงฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาได้ บางคนที่หยุดไป 12 เดือน นับตั้งแต่จบ “ออล อิงแลนด์” ครั้งที่แล้ว บางคนหยุดไป 6 เดือน ก็คือชุดที่ไปเล่น เดนมาร์ก โอเพ่น การได้แชมป์ก็คงน่าชื่นชมแหละครับ แต่เจาะกันจริงๆแล้วบางคนยังไม่เฉียบขนาดนั้นครับ

Q : คงต้องให้พูดถึง เคนโตะ โมโมตะ ที่ถูกมองว่าเป็นเต็ง 1 ในชายเดี่ยว และจะทำให้ทัพปลาดิบ เก็บแชมป์ได้ทั้ง 5 ประเภทเลย หากเขาสามารถคว้าเเชมป์ได้ ?

อ.เจี๊ยบ : ต้องบอกว่าการที่ โมโมตะ ต้องหยุดทำการแข่งขันยาวนานกว่า 1 ปี 2 เดือน ตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ มีปัญหาที่ตา ต้องเข้ารับการผ่าตัด อีกทั้งยังเคยติดเชื้อโควิด-19 เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา มันเห็นชัดเลยว่า ร่างกายเขายังปรับสภาพได้ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ความเร็วหายไปพอสมควร เกมบุกก็ไม่ดุดันเหมือนเดิม อีกทั้งมาเจอ ลี ซื่อเจี๋ย ที่ฟอร์มฮอตมากในเวลานี้ด้วย ทำให้ปลิวตั้งแต่รอบ 8 คนสุดท้ายครับ

Q : เดี๋ยวให้พูดถึงการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ทั้ง 5 ประเภทแบบลงรายละเอียดครับ ?

ชายคู่ : อันนี้เป็นไปตามความคาดหมายนะครับ เนื่องด้วยช่วงหลังผลงานของ ฮิโรยูกิ เอ็นโดะ & ยูตะ วาตานาเบะ ดีกว่า ทาเคชิ คามูระ & เคอิโกะ โซโนดะ แบบชัดเจนอยู่แล้ว ยิ่งการแข่งขันในวันนี้ จังหวะคับขันที่ต้องใช้เกมรับเป็นที่พึ่งแล้ว เกมรับของ เอ็นโดะ & วาตานาเบะ ทำได้ดีกว่ามาก เหนียวแน่นกว่ามาก ถึงแม้รูปเกมจะสูสีในช่วงแรก แต่พอถึงเกมสาม พละกำลังที่ลดลงของ คามูระ & โซโนดะ ทำให้ไม่สามารถต่อกรกับ เอ็นโดะ & วาตานาเบะ ได้ครับ

หญิงคู่ : เป็นการพบกันของ มือ 1 และ มือ 3 ของโลก รวมทั้งเป็นคู่อดีตแชมป์กับรองแชมป์โลกของญี่ปุ่น ที่โคจรมาพบกันในรอบชิงชนะเลิศ ความจริงแล้วทุกคนมั่นใจนะว่า ญี่ปุ่นจะเข้าชิงแน่นอน เนื่องด้วยทะลุมาถึงรอบตัดเชือกถึง 3 คู่ ที่สุดแล้ว มายุ มัตสึโมโตะ & วากานะ นากาฮาระ ก็ยังแข็งแรงกว่า ซายากะ ฮิโรตะ & ยูกิ ฟูกูชิมะ โดยเฉพาะในรอบชิง ซึ่งปกติแล้ว ฟูกิชิมะ จะเป็นคนทำเกมเเละเล่นได้ดีกว่าคู่ขา แต่วันนั้นเธอน่าจะกดดัน เล่นผิดพลาดหลายช็อต ก็เลยดาวลงมาทั้งหมดทำให้แพ้ไปครับ ก็ไม่ถือว่าพลิกนะคู่นี้

หญิงเดี่ยว : น่าเสียดายนะครับ สำหรับ น้องหมิว ที่ทัวร์นามเม้นต์นี้ ทำผลงานได้ดีมาก แต่สิ่งที่สู้ โอกูฮาระ ไม่ได้ คือประสบการณ์อย่างเดียวเลยครับ ฝั่งญี่ปุ่น เค้าเป็นถึงอดีตแชมป์โลก , อดีตมือ 1 โลก , อดีตแชมป์เวิลด์ทัวร์ไฟน่อลส์ เธอมีประสบการณ์ในรอบชิงฯมากกว่าชัดเจน ซึ่งน้องหมิวเอง ก็เข้าชิงรายการเวิลด์ทัวร์ที่สูงกว่า 500 เป็นครั้งแรก จึงตั้งใจมากเป็นพิเศษ ก็เลยกดดันตัวเอง ทีนี้พอกดดันตัวเอง การเคลื่อนตัว การออกลูก ก็จะค่อนข้างช้า แม้จะพยายามปรับเกมสู้ในเกมสอง แต่ก็ต้องยอมรับว่า โอกูฮาระ เธอแข็งแกร่งจริงๆ แข็งแรงกว่า เกมแรลลี่ยาวๆ ก็ไปเข้าทางเขาอย่างสิ้นเชิง ก็เลยทำให้ น้องหมิวแพ้ไป แต่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วนะกับการเข้าได้ถึงรอบชิงชนะเลิศ 

ชายเดี่ยว : เป็นการล้างตาของ ลี ซื่อเจี๋ย หลังเคยแพ้ให้ วิคเตอร์ อเซลเซ่น เมื่อรอบรองชนะเลิศปีที่แล้ว โดยแพ้ไปในเกมที่สามชนิดคาใจ ลี ซื่อเจี๋ย มากๆ ทำให้แมตช์ชิงชนะเลิศ ในวันนี้ เขาตั้งใจมาก อีกทั้งเป็นการแข่งขันชายเดี่ยวรอบชิงฯ ที่สนุกที่สุดตั้งแต่เคยมีมา โดยเฉพาะเกมแรก ที่ต้องถึงฏีกา จบลงที่ 30-29 ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นมานานมากแล้วนะสกอร์แบบนี้ รูปแบบการแข่งขันเป็นการดวลหน้าเน็ตเป็นหลัก หลี่ ซื่อเจี๋ย ทำการบ้านมาดีมาก ปรับรูปแบบการเล่นมาเพื่อการนี้ เพราะโดยปกติแล้ว ไม่ค่อยบุกเท่าไหร่ แต่วันนี้กล้าบุกเต็มตัว ผมมองว่ามันเป็นสิ่งทีดีนะ ด้วยการที่รูปร่างสูงใหญ่ ลูกตบคม และมีพลัง ยิ่งประกอบกับเกมรับดีอยู่แล้ว มันเลยลงตัวไปหมด ประกอบกับ วิคเตอร์ บุกยังไงก็ไม่ตายจริงๆ ลูกตบหนักๆของเขาทำอะไรคู่แข่งไม่ได้ในวันนี้ หน้าเน็ตเป็นรอง ความเร็วก็เป็นรอง เจียนไปเจียนอยู่ในเกมที่สอง แม้จะเอาตัวรอดมาได้ แต่พอถึงเกมสาม สภาพร่างกายอ่อนล้า เสียพลังไปเยอะมาก จากการก้มๆ เงยๆ โดน ซื่อเจี๋ย ทั้งแจก ทั้งกระชาก ทั้งหยอด ทำให้ วิคเตอร์ หมดพลังแบบเกลี้ยง ถ้าเปรียบกับน้ำมันในเครื่องยนต์ก็คือขับไปต่อไม่ได้ จอดตาย ก้าวขาไม่ออก และก็ยอมสิโรราบ โดยดีแพ้ไปครับ

คู่ผสม : อันที่จริงเหลือเชื่อนะ ที่คู่ใหม่อย่าง ยูกิ คาเนโกะ & มิซากิ มัตสึโตโม่ สามารถฝ่าด่าน ชาน เปงสุน & โก๊ะ หลิวยิง ในรอบตัดเชือกมาได้ แต่พอรอบชิงฯแล้ว มาเจอรุ่นน้อง ที่เป็นมือท็อป อย่าง ยูกิ วาตานาเบะ & อาริสะ ฮิกาชิโนะ ที่เล่นด้วยกันมานาน เป็นตัวเต็งอยู่แล้ว ทำให้ไม่สามารถต่อกรได้จริงๆ ทั้งความเร็ว ความหนัก เป็นรองทั้งหมด แม้ว่า มัตสึโตโม่ จะขึ้นชื่อการเล่นหน้าเน็ต แต่ก็ไม่ใช่ในประเภทคู่ผสม จึงโดน ฮิกาชิโนะ ข่มใส่ตลอดการแข่งขัน สุดท้ายตามคาด ไม่มีปัญหาครับ ทำให้ วาตานาเบะ & ฮิกาชิโนะ คว้าแชมป์เป็นสมัยที่สองในรายการนี้ ส่วน วาตานาเบะ ก็คว้าดับเบิ้ลแชมป์ไปครอง โดยคนล่าสุดที่ทำได้ คือ คิม ดองมูน ของเกาหลีใต้ เมื่อปี 2002

Q : อยากให้พูดถึง “ลี ซื่อเจี๋ย” ที่กำลังดังไปทั่วมาเลเซีย ในเวลานี้ หลายๆ คน ยกให้เป็นทายาทของ “ลี ชองเหว่ย” กันเลยทีเดียว ?

อ.เจี๊ยบ : ก็ต้องใช้คำว่า “์Nothing is impossible” ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ กับการที่ ลี ซื่อเจี๋ย มาเล่นที่เมืองไทย ผลงานไม่ดีเลย จนโดนแฟนๆ มาเลเซียต่อว่า ยิ่งไปกว่านั้น ก่อน ออล อิงแลนด์ สองสัปดาห์ เจ้าตัวก็แพ้ให้ วิว กุลวุฒิ สองเกมรวด ไม่มีวี่แววจะเป็นแชมป์ได้เลย ฟอร์มในรายการนี้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว แต่ผมมองว่า เขาค้นพบการเล่นของตัวเองแล้วนะ ว่าที่ผ่านมา เขาเล่นเกมรับมากเกินไป พอในรายการนี้ กล้าเล่นเกมบุกมากขึ้นเยอะ ประกอบกับ ตัวเองก็เป็นคนเล่นเกมบุกดีอยู่แล้ว พออะไรมันเข้าทาง ก็เลยไปกันใหญ่เลย ยิ่งลงตัวมากขึ้นไปอีก ทีเด็ดคือลูกหยอด ดีมากๆ ปั่นแต่ละที คู่ต่อสู้งัดขึ้นลำบากมาก ผมถือว่า เซอไพรส์นะ หากเทียบผลงานตั้งแต่เริ่มปี 2021 ก็คงจะเป็นอีกคนที่มีลุ้นเหรียญโอลิมปิคนะ เพราะปราบมาได้ทั้ง โมโมตะ และ วิคเตอร์ อเซลเซ่น ได้ในทัวร์นาเม้นต์นี้

Q : กลับมาที่นักกีฬาไทยบ้างครับ ไม่พูดถึงคงไม่ได้ “น้องเมย์ รัชนก” กับการพลาดท่าพ่าย โอกูฮาระ ทั้งที่ได้เกมแรกไปก่อน และขึ้นนำในเกมสาม 18-15 ในรอบตัดเชือก ?

อ.เจี๊ยบ : ความจริงในทัวร์นาเม้นต์ครั้งนี้ น้องเมย์ มีสัญญาณที่ดีขึ้นมากนะครับ ในเรื่องของสภาพความแข็งแรง เพราะเล่นสามเกมกับทั้ง มิอา บลิดเฟลท์ และ โอกูฮาระ แต่ไม่ได้แสดงความเหนื่อยล้าอย่างที่เคยเห็นออกมาเลย ผมมองว่าจุดที่ทำให้แพ้ โอกูฮาระ คือในเกมสุดท้าย จังหวะที่ขึ้นนำห่าง พยายามเร่งมากไปนิดนึง ด้วยความที่มั่นใจ และต้องการปิดเกม ก็เลยเกิด Unforced Error ขึ้นมาอย่างน่าเสียดาย มันก็เป็นการวัดใจ หากลูกที่เธอตบไล่เส้น เป็นเเต้ม ก็จะขึ้น 19 ขึ้น 20 ได้ก่อน แต่พอมันไม่ได้ ก็เลยไปปลุก โอกูฮาระ ให้ฟื้นขึ้นมาอีกก๊อก น่าเสียดายนะ เพราะโดยรูปเกมถือว่า น้องเมย์ คุมได้หมด แต่ผมก็ยังต้องย้ำคำเดิมนะ แม้น้องเมย์จะแพ้ แต่จังหวะฝีมือ เทคนิคต่างๆ น้องเมย์ ก็ยังไม่เป็นสองรองใครในโลกกับประเภทหญิงเดี่ยว

Q : “น้องหมิว พรปวีณ์” กลายเป็นนักแบดมินตันเดี่ยวของไทย ที่ทำผลงานได้ดีในช่วงหลายทัวร์นาเม้นต์หลัง อยากให้พูดถึงตรงนี้สักเล็กน้อยครับ ?

อ.เจี๊ยบ : ก็คงต้องบอกว่าช่วงนี้เป็นกราฟขาขึ้นจริงๆของน้องหมิว เล่นแล้วมั่นใจในตัวเอง ไม่กดดันตัวเอง ความได้เปรียบของเธอ คือเป็นนักแบดมินตันที่รูปร่างสูง ยาว รวมทั้งมีการปรับฟุตเวิร์คให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ทำให้เคลื่อนตัวได้เร็ว ความแข็งแรงก็ไม่ใช่จุดอ่อนอยู่แล้ว ยิ่งเป็นคนที่บุก ทั้งการตีโอเวอร์เฮดครอสส์ , โฟร์แฮนด์ไล่เส้น และเล่นลูกหน้าเน็ตได้ดีอีกด้วย ถือเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีมชาติไทยที่จะเล่นในอูเบอร์คัพ ปีหน้า

Q : ผลงานนักกีฬาไทยอื่นๆที่อยากพูดถึงครับ ?

อ.เจี๊ยบ : ก็มีหลายคนนะ “น้องครีม บุศนันทน์” ก็เล่นได้ดี เอาชนะ อายะ โอโฮริ มาได้ด้วย การเจอกับ โอกูฮาระ ก็สร้างความลำบากใจให้คู่แข่งได้มากเลยแหละ เล่นกันไปถึงสามเกม รูปแบบการเล่นดีขึ้นเยอะมาก มีเพียงข้อผิดพลาดที่ต้องไปแก้อีกนิดหน่อย อาจจะต้องเพิ่มเกมบุก ที่ยังไม่หลากหลายมากนัก ส่วน “ต้นน้ำ & มาร์ค” ก็น่าเสียดาย เพราะโชว์ฟอร์มได้ดีตั้งแต่ที่กรุงเทพแล้ว แต่ต้นน้ำดันไปข้อเท้าพลิกที่สวิตฯ ส่งผลให้การเคลื่อนตัวช้าลง ทำให้ไปแพ้ เดนมาร์ก ในรอบก่อนรองชนะเลิศ นอกจากนี้ยังมี “น้องมูนา เบญญาภา” ที่เล่นดีทั้งเดี่ยวและคู่ผสมครับ เป็นอนาคตของทีมชาติได้อีกคน

Q : ถ้าให้ยก MVP ในรายการนี้จะให้ใครครับ ?

อ.เจี๊ยบ : ก็ต้องเป็น “ลี ซื่อเจี๋ย” เลยครับ มาอย่างม้ามืด ปราบทั้ง โมโมตะ และ วิคเตอร์ อเซลเซ่น ไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เขาก็ต้องเป็น MVP แน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นคือแหวกแนวการเป็นแชมป์ด้วย เพราะอีก 4 ประเภท เป็นญี่ปุ่นหมดเลย อันที่จริงแล้วจะมี น้องหมิวอีกคน แต่บังเอิญว่าไปไม่ถึงแชมป์ ส่วน วาตานาเบะ ที่คว้า 2 แชมป์ได้ ก็ถือว่ายอดเยี่ยม แต่ด้วยชื่อชั้น เขาก็เป็นเต็ง 1 อยู่แล้ว ทั้งชายคู่และคู่ผสม จึงเป็นไปตามความคาดหมายครับ

Q : หลังจากนี้ จะได้เห็นการแข่งขันของนักแบดมินตันแบบครบเซต ทุกประเทศ ฟูลออปชั่นเมื่อไหร่ครับ ?

อ.เจี๊ยบ : ผมคิดว่าน่าจะเป็นราวๆเดือน พ.ค. รายการที่ มาเลเซีย ระดับ 750 นะ เพราะเวลานั้นสถานการณ์ทุกอย่างน่าจะดีกว่านี้มากขึ้น วัคซีนก็น่าจะพร้อม แต่ยังไม่ฟันธงนะครับ คิดว่าน่าจะเป็นรายการที่ มาเลเซีย 750 และ สิงคโปร์ 500 ครับ

ก็จบลงไปแล้วนะครับในศึก “ออล อิงแลนด์ 2021” อาจจะจบลงด้วยความทุลักทุเล และปัญหาต่างๆมากมาย แต่สุดท้ายการแข่งขันก็ยังดำเนินไปจนสำเร็จ ซึ่งก็คงต้องติดตามให้กำลังใจนักกีฬาไทยกันต่อไปในทัวร์นาเม้นต์หน้านะครับ ส่วนแฟนๆที่ติดตามการจัดอันดับ 10 นักแบดมินตันประเภทคู่ที่ยอดเยี่ยมตลอดกาลของ อ.เจี๊ยบ ก็อดใจรอกันอีกไม่นาน เดี๋ยวผมจะมาปั่นให้อ่านกันแน่ครับ แต่ที่สุดแล้ววันนี้ผมกับ อ.เจี๊ยบ คงต้องลาไปก่อนนะครับ พบกันใหม่ฉบับที่ 14 ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

เรียบเรียงโดย : NickyMAN (นิก ธีร์ธวัช)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

>> ทำได้ดี! ‘คุณหญิงปัทมา’ ชื่นชม ‘เมย์-หมิว-ครีม’ ผลงานสุดปังใน ออล อิงแลนด์

>> กราฟขาขึ้น!! “หมิว-พรปวีณ์” ขยับขึ้นมือ 10 โลก หลังซิวรองแชมป์แบดออลอิงแลนด์

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่

เก็งไม่มีพลาด! ฟันธงคู่ไหนเด็ด! เจาะลึกก่อนเกมพรีเมียร์ลีก สมัครทาง SMS พิมพ์ R1 ส่งมาที่ 4238066 หรือคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ ใช้ฟรี 7 วัน!!!!