‘พิพัฒน์’ ไฟเขียวหนุนจัดเอซีแอล รอลุ้นคุย ศบค. ขอกักตัวแค่4วัน
หลังจากที่ “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ยื่นความจำนงค์ให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งล่าสุดทางสมาคมฯ ได้ยื่นแสดงความจำนงค์ขอเป็นเจ้าภาพไปทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น
ล่าสุด นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากได้หารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มีแนวโน้มไปในทางที่ดี และภายในสัปดาห์นี้จะได้นำแผนงานไปเสนอกับทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ต่อ สุดท้ายต้องอยู่ที่ทางศบค. ว่าจะไฟเขียวหรือไม่
นายกรวีร์ กล่าวต่อว่า แผนงานที่นำไปเสนอนั้นก็คือการใช้มาตรการบับเบิลแบบเดียวกับการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ในประเทศไทย แต่โจทย์ใหญ่คือ การแข่งขันแบดมินตันให้กักตัว 7 วันก่อนแข่ง แต่ของเอเอฟซีนั้นให้กักตัวแค่ 4 วัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะถ้ามีชาติที่เสนอกักตัว 4 วัน ไทยจะเสียเปรียบทันที แม้ว่าจะมีสนามแข่งหรือสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมขนาดไหนก็ตาม
“เราเสนอการจัดแบบบับเบิล ซึ่งทางเอเอฟซีขอให้กักตัว 4 วัน เรื่องนี้ต้องไปคุยกับศบค.ว่ามีความเห็นอย่างไร ถ้าถามส่วนตัว การกัก 4 หรือ 7 วัน ไม่ได้ต่างกันมากภ้าหากอยู่ในระบบบับเบิล หากเจอผู้ติดเชื้อก็นำเข้าสู่กระบวนการทางสาธารณสุขต่อไป”
รักษาการซีอีโอไทยลีก ปิดท้ายว่า สัญญาณที่ดีคือจากการหารือกับ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้ให้การสนับสนุนเต็มที่ ออกหนังสือมาให้ 1 ฉบับ เพื่อเสนอต่อเอเอฟซี ว่าไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพ ทำให้มีน้ำหนักค่อนข้างมากจากการสนับสนุนของรัฐบาล และช่วยในการพิจารณาของเอเอฟซีได้
ทั้งนี้ ทางบีจี ปทุม ได้เสนอใช้สนาม ลีโอ สเตเดียม เป็นสนามหลัก และ สนามภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นสนามเสริมสำหรับนัดสุดท้าย ส่วนการท่าเรือ เสนอใช้สนาม ช้าง อารีนา ที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นสนามหลัก กับ สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ จ.นครราชสีมา เป็นสนามเสริม และถ้าหากว่าประเทศไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ก็จะมีโอกาสได้รับพิจารณาเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ด้วย