“บาส-ปอป้อ” กับเคล็ดลับความสำเร็จระดับโลก


This image is not belong to us

ถ้าพูดถึงกระแสในวงการกีฬาบ้านเรา ยามนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักสองนักแบดมินตันสุดฮอตมือวางอันดับ 2 ของโลก อย่าง ปอป้อ – ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย และ บาส – เดชาพล พัววรานุเคราะห์ สองนักกีฬาแบดมินตัน ประเภทคู่ผสม ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยไปทั่วโลก

    โดยล่าสุดทั้งคู่เพิ่งคว้ารางวัล แชมป์โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น  โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น และ เอชเอสบีซี เวิล์ดทัวร์ ไฟนอล 2020 มาได้หมาด ๆ 

      ซึ่งแน่นอนกว่าจะมาถึงวันนี้ ทั้งคู่ต้องผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างหนักมาก แต่สิ่งหนึ่งที่นักแบดมินตันคู่นี้ให้ความสำคัญไม่แพ้การฝึกซ้อมนั่นคือ การดูแลกายใจ อันเป็นส่วนหนึ่งของเบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬาทั้งสองท่านนี้ 

This image is not belong to us


    

    ล่าสุดทั้งคู่ได้มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการ “มาฆบูชา ปฏิบัติภาวนา” กับ มูลนิธิธรรมดี ณ เมืองโบราณ ระหว่างวันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในนามมูลนิธิธรรมดีจึงมีโอกาสได้พูดคุยถึงเคล็ดลับความสำเร็จของนักกีฬาระดับโลกทั้งสองท่านนี้

    ซึ่งปอป้อ เล่าให้ฟังว่า นักกีฬาต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งทางด้านร่างกายปอป้อกับบาสมีศูนย์ฝึกเอสซีจี แบดมินตัน อะคาเดมี่ ดูแลให้ ที่สนามจะมีนักวิทยาศาสตร์การกีฬา ดร.เจริญ กระบวนรัตน์ เป็นอาจารย์ที่คอยดูแลเรื่องร่างกายให้เรา และเตรียมความพร้อมให้เราในทุก ๆ ด้าน  

    และสำหรับการมาปฏิบัติภาวนาเป็นเวลา 3 วัน 2 คืนในครั้งนี้ บาสเล่าว่า ดร.เจริญ ยังได้เล็งเห็นความสำคัญว่า การดูแลใจควบคู่ไปกับการดูแลกายด้วย

This image is not belong to us

    “ตั้งแต่ อาจารย์เจริญ เข้ามาช่วยในเอสวีจีอะคาเดมี่ อาจารย์ได้พาไปทำบุญ ไปวัดต่าง ๆ เพราะท่านอยากให้เราฝึก ไม่ว่าจะเป็นการเดินจงกรม นั่งสมาธิ การฝึกเรื่องเหล่านี้จะทำให้เรารู้สึกตัวมากขึ้น”

       ปอป้อ เสริมว่า “การปฏิบัติภาวนา ทำให้เราได้เรื่องความรู้สึกตัวจากความเคยชิน มันสามารถนำใปใช้ตอนเราซ้อมได้ บางทีการมีชีวิตประจำวันแบบวนไปเรื่อย ๆ ซ้อมเวลาเดิม ทำทุกอย่างตามเดิม วอร์มท่าเดิม ๆ 

    ต่อไปเราก็จะต้องควบคุมท่าทางให้รู้สึกตัวตลอดว่าตอนนี้เราทำอะไรอยู่ หรือบางทีเราซ้อมแล้วรู้สึกเบื่อ สมาธิ สติ ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว การฝึกสมาธิ เดินจงกรม ทำให้เรายึดระยะได้นานขึ้น” บาส ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงประโยชน์ที่ได้ปฏิบัติภาวนาคือ..

This image is not belong to us

    “สิ่งสำคัญของแบดมินตันจะมี 3 เรื่อง คือ ด้านทักษะแบดมินตัน ด้านร่างกาย และด้านจิตใจที่ต้องควบคู่กันไป ครั้งนี้ได้มาฝึกทางด้านจิตใจสิ่งที่ได้คือ เรื่องของความอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปยึดติดกับอดีต หรือไปคิดถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้นเพราะจะทำให้เราทุกข์ และพระอาจารย์ยังได้สอนเรื่องการใช้ชีวิตปกติทั้งนอกสนามและในสนามเวลาแข่ง

     เวลาในสนามเวลาเรากดดันเราต้องรู้สึกตัวให้มาก ๆ ทำให้ความกดดันที่มีให้น้อยที่สุดเพื่อที่จะชนะคู่แข่ง”

This image is not belong to us

    สำหรับปอป้อ เธอกล่าวว่า “ของปอป้อเป็นเรื่องของอารมณ์ ซึ่งในการแข่งขันจะต้องขจัดปัญหาเรื่องของอารมณ์ จะพยายามใจเย็นให้มากขึ้น ทุกคืนจะพยายามสวดมนต์ แต่เดิมเคยสวดเร็ว ก็จะพยายามสวดให้ช้าลงจะได้มีสติและสมาธิมากขึ้นค่ะ”

  

    และนี่..คือเคล็ดลับของสองนักแบดมินตัน ประเภทคู่ ระดับโลก ที่สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศ.

This image is not belong to us

This image is not belong to us

This image is not belong to us

This image is not belong to us


 

อีกหนึ่งช่องทางในการติดตามข่าวสาร

Add friend ที่ @Siamsport