Racket Boys จบอีพี 16 ไปอย่างท่วมท้นในความรู้สึกของแฟนซีรีส์ ที่แม้ว่าจะมีปัญหาการถ่ายทำ เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่กลับมารุนแรงที่เกาหลีใต้ จนทำให้ต้องเปลี่ยนแผนการออกอากาศเดิมมาจบตอนอวสานหลังปิดกีฬาโอลิมปิก 2020 ไปหนึ่งวัน แต่ข้อดีอย่างหนึ่งคือ มันทำให้แฟนซีรีส์ดูการแข่งขันแบดมินตันในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ได้สนุกขึ้น เข้าใจมากขึ้น และแอบส่งใจเชียร์ทีมจากเกาหลีใต้ ที่แม้สุดท้ายจะต้องแข่งขันเพื่อชิงเหรียญทองแดงระหว่าง คองฮียอง กับ คิมโซยอง และ อีโซฮี กับ ชินซึงชาน โดยชัยชนะตกเป็นของคู่ คองฮียอง กับ คิมโซยอง
บทความนี้จะเป็นการป้ายยาเพื่อแนะนำซีรีส์ Racket Boys เพราะนี่คือซีรีส์สว่างๆ ที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย เหมาะกับการเป็นซีรีส์ครอบครัวให้ล้อมวงดูร่วมกันระหว่างกักตัวอยู่บ้าน ที่นอกจากจะได้ความสนุกสนาน ยังได้แรงบันดาลใจจากกีฬาแบดมินตัน และเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างวัยไปพร้อมๆ กัน
โดยในเรื่องราว Racket Boys เล่าถึงทีมแบดมินตันโรงเรียนมัธยมแฮนัม เมืองท้ายปลายสุดทางใต้ของเกาหลี ที่อยู่ตำแหน่งท้ายสุดของตาราง จนได้ ยุนแฮกัง อดีตนักแบดมินตันอัจฉริยะมาร่วมทีม เพื่อนำพาทีมไปสู่อันดับ 1 ของการแข่งขันกีฬายุวชนแห่งชาติให้ได้ ซึ่งนักแสดงนำในเรื่องนี้ ก็เป็นนักแสดงรุ่นใหม่ของวงการที่แสดงให้เห็นความตั้งใจในการแสดงอย่างยิ่ง
พร้อมด้วยนักเขียน จองโบฮุน เจ้าของเดียวกับซีรีส์ Prison Playbook ที่ผลสำเร็จของงานเขียนแสดงผ่านนักแสดงที่มารับบทรับเชิญชนิดที่ว่าแทบจะยกคุก Prison Playbook กันมา สำหรับผู้กำกับ โชยองกวัง (Heart Surgeons, Defendant, Hyde Jekyll, Me) ก็เป็นอีกครั้งที่เขาแสดงให้เห็นการกำกับที่ผสมผสานดราม่า ตลก แอ็กชัน เอาไว้ได้อย่างลงตัว
นักแสดงหลักในซีรีส์ Racket Boys ต้องเข้าซ้อมแบดมินตันและออกกำลังกายตามแบบนักกีฬาเป็นเวลา 5 เดือนก่อนเริ่มการถ่ายทำ และถ้าหากรวมถึงระยะเวลาระหว่างถ่ายทำด้วย พวกเขาใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 9 เดือนไปกับการเล่นแบดมินตันอย่างจริงจัง จนทำให้คนดูเชื่อได้ว่า พวกเขาคือนักกีฬาแบดมินตันตัวจริง
ทังจุนซัง ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Korea Times เกี่ยวกับการเตรียมพร้อมในบท ยุนแฮกัง ว่าเขาใช้เวลาหลายเดือนฝึกซ้อมแบดมินตันตั้งแต่เดือนตุลาคม 2020 “ในเรื่องแฮกังเป็นนักแบดมินตันอัจฉริยะ ซึ่งผมต้องทำทุกอย่าง เพราะอยากให้ตัวเองดูเหมือนนักแบดมินตันมืออาชีพจริงๆ ผมต้องการแสดงให้เห็นเทคนิคและการเคลื่อนไหวแบบนักกีฬาอาชีพ ผมเลยต้องฝึกซ้อมหนักมากครับ มันยากมากจริงๆ นะครับ รวมถึงความท้าทายในเรื่องของการฟิตร่างกายด้วย แต่ผมได้เห็นผลของมันในซีรีส์ Racket Boys ผมก็รู้สึกได้เลยว่าคุ้มค่ากับความตั้งใจแล้ว”
ทังจุนซัง ยังให้สัมภาษณ์ว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เขาเติบโตขึ้น ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง เพราะได้ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์มากมาย และเพื่อนนักแสดงวัยเดียวกันที่ในตอนนี้สนิทสนมกันมากๆ ทั้ง ชเวฮยอนอุค (รับบท นาอูชาน), ซนซังยอน (รับบท บังยุนดัม กัปตันทีม), คิมคังฮุน (รับบท อียงแท น้องเล็กของทีม) และ คิมมินกี (รับบท จองอินซน) พวกเขาได้เรียนรู้กันและกันในการแสดงที่ต้องอาศัยทีมเวิร์กในการถ่ายทอดเรื่องราวออกมา
“พวกเรามีเป้าหมายเดียวกันครับ เราเลยสนิทกันได้เร็วมาก เราซ้อมแบดมินตันด้วยกันซึ่งมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ขนาดว่าอยู่ในกองถ่ายเราก็ยังเล่นแบดมินตันกันสนุกๆ ด้วยครับ ถึงแม้ว่าพวกเราจะอายุไล่เลี่ยกัน แต่เรื่องการแสดงเราช่วยกันมากเลยนะครับเพื่อให้แต่ละฉากดีขึ้น การแสดงของเพื่อนๆ ส่งให้ผมแสดงออกได้ดีขึ้น บางทีเราก็ช่วยกันแชร์ไอเดียว่าจะทำอย่างไรให้ฉากนั้นๆ สนุกขึ้นได้ เราได้เรียนรู้จากกันเยอะมากจริงๆ ครับ”
ถ้าคุณเป็นแฟนซีรีส์และเป็นแฟนโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่เพิ่งจบไป น่าจะเห็นความเชื่อมโยงกันหลายอย่าง แต่อย่างหนึ่งที่สะท้อนออกมาได้ชัดเจนคือเรื่องของการกีฬา ฝีมือที่แท้จริง และความมุ่งมั่นสู่ชัยชนะ
Racket Boys ไม่ใช่ซีรีส์กีฬาแบดมินตันเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเส้นเรื่องที่แสดงวิถีชีวิตในต่างจังหวัดของเมืองแฮนัม เมืองชนบทที่เต็มไปด้วยผู้เฒ่าผู้แก่ทำสวนทำไร่ในแบบที่ห่างไกลกับชีวิตทันสมัยในเมืองหลวง
ความอบอุ่นละเมียดละไมที่เกิดขึ้นไกลแสงสี จึงเป็นอีกเสน่ห์ที่ทำให้ Racket Boys เติมเต็มความรู้สึกนี้ได้ หลายๆ ฉาก ทั้งการล้อมวงกินอาหารเย็น การเดินเข้าป่าไปหาสมุนไพร ช่วยกันเก็บมันฝรั่ง หรือฉากขำๆ ที่พวกเด็กผู้ชายต้องออกมาเข้าห้องน้ำนอกบ้านตอนกลางคืน ความสำคัญของ WiFi และร้านเกมอินเทอร์เน็ต เหล่านี้น่าจะทำให้คนดูที่จากบ้านต่างจังหวัดคิดถึงอดีตอันหอมหวาน และอยากกลับไปหาคนเฒ่าคนแก่ที่บ้านสักครั้ง
และถ้าจะให้พูดถึงบทสรุปของซีรีส์ Racket Boys ก็คงเป็นไปอย่างที่ คิมซังคยอง ผู้รับบท โค้ชยุนฮยอนจง ให้สัมภาษณ์เอาไว้ในวันแถลงข่าวซีรีส์เรื่องนี้ “ผมรับแสดงซีรีส์เรื่องนี้เพราะว่าเรื่องราวมันโดดเด่นมาจากเรื่องอื่นๆ เลยครับ มันยูนีกมากๆ เป็นซีรีส์ที่ทำให้คุณยิ้ม และทำให้ร้องไห้ได้ในเวลาเดียวกัน โดยปกติซีรีส์มักจะเล่าเรื่องที่อยู่ในความนิยม แต่ตอนที่ได้อ่านบท Racket Boys ผมก็รู้ได้ทันทีว่าซีรีส์เรื่องนี้คือสิ่งที่ประเทศเรากำลังต้องการตอนนี้ โดยเฉพาะผู้คนที่ทนทุกข์และดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดในสถานการณ์โรคระบาดที่กำลังเป็นอยู่”
ภาพ: SBS Drama
อ้างอิง:
เผยแพร่: 2 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.