คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และ นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากผลการจับฉลากแบ่งกลุ่มแบดมินตัน ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก “โตเกียว 2020” ซึ่งจะแข่งขัน ระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม – 2 สิงหาคมนี้ ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น “แบดมินตันทีมชาติไทย” ถือว่าอยู่ในเส้น ทางที่จะผ่านเข้ารอบ 2 แทบทุกประเภท ยกเว้นประเภทหญิงคู่ ที่ผลการจับฉลากอยู่ในกรุ๊ปออฟเดธ ต้องลุ้นทุกแมทช์ในรอบแบ่งกลุ่ม
ทั้งนี้หากพิจารณาเป็นบุคคล “แบดมินตันทีมชาติไทย” ชายเดี่ยว “กัน” กันตภณ หวังเจริญ มือวางอันดับ 14 ของรายการ อยู่กลุ่ม เค ร่วมกับ ไค ไชเฟอร์ จากเยอรมนี, โทบี เพนตี้ จากสหราชอาณาจักร โดย กันตภณ น่าจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายได้ ซึ่งโปรแกรมในรอบ 2 หรือรอบ 16 คนสุดท้าย คาดว่า กันตภณ จะไปพบกับ แอนเดรส แอนตอนเซน มืออันดับ 3 ของโลกจากเดนมาร์ก ถือว่าเป็นงานที่หนัก เพราะจากสถิติที่เคยพบกันมา ไทยยังเป็นรองเดนมาร์ก
ส่วนหญิงเดี่ยว “แบดมินตันทีมชาติไทย” “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือวางอันดับ 5 ของรายการ อยู่กลุ่มเอ็น ร่วมกับ โซเนีย เชียะ จากมาเลเซีย และ ลอรา ซาโรซี จากฮังการี ขณะที่ “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ อยู่กลุ่มดี ร่วมกับ คริสติน คูบา จากเอสโตเนีย, ดาเนียลา มาซีส จากเปรู โดยทั้ง “เมย์ ” และ “ครีม” น่าจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้าย
โดยรัชนก ในรอบ 16 คนสุดท้าย น่าจะพบกับ เกรกอเรีย มาริสก้า ตุนจุง ดาวรุ่งจากอินโดนีเซีย ซึ่งที่ผ่านมา รัชนก เอาชนะอินโดนีเซีย มาได้ตลอด โอกาสที่จะเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย มีค่อนข้างสูง และในรอบ 8 คนสุดท้าย ซึ่งถือว่าสำคัญที่สุด รัชนก จะพบกับ ไท่ ซือ อิง มือ 1 ของโลกจากไต้หวัน ซึ่งทั้งคู่มีสถิติการพบกัน ค่อนข้างสูสี ซึ่งเชื่อว่า รัชนก จะผ่านรอบนี้ได้ ทำให้โอกาสเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ มีสูง
ขณะที่ บุศนันนท์ ในรอบ 16 คนสุดท้าย ถูกจับฉลากอยู่สายบน ซึ่งต้องมาพบกับ อัน เซ ยอง ดาวรุ่งจากเกาหลีใต้ มืออันดับ 8 ของโลก คู่นี้ยังไม่เคยพบกันมาก่อน จากฟอร์มการเล่นล่าสุดของทั้งคู่ ต้องถือว่าขณะนี้ต่างก็กำลังอยู่ในฟอร์มที่ทำผลงานดีที่สุด โอกาสของ บุศนันทน์ ที่จะผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย 50-50
หญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ มือวางอันดับ 9 ของรายการ อยู่กลุ่มดี ร่วมกับ เฉิน ยิงเฉิน กับ เจีย ยี่ฟาน คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการจากจีน, คิม โซยอง กับ คอง ฮียอง จากเกาหลีใต้ และ กาเบลลา สโตวา กับ สเตฟานี สโตวา จากบัลแกเรีย
จากการเปรียบเทียบทั้ง 4 กลุ่ม หญิงคู่ไทย อยู่ในกรุ๊ปออฟเดธ กลุ่มที่หนักที่สุด แต่ว่าคู่ต่อสู้ในสายไม่ว่าจะเป็น คิม โซ ยอง กับ คอง ฮียอง จากเกาหลีใต้ หรือ 2 พี่น้อง สโตวา จากบัลแกเรีย หญิงคู่ไทย ก็เคยพิชิตมาได้แล้ว ดังนั้น โอกาสเข้ารอบ 2 ของหญิงคู่ไทย ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน
ส่วน คู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวางอันดับ 3 ของรายการ อยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับ ทอม กิกคูล กับ เดลไพล์ เดลรู จากฝรั่งเศส, มาคัส เอลลิส กับ ลอร์เรน สมิธ จากสหราชอาณาจักร และ โจฮัว ฮูร์เบิร์ต ยู่ กับ โจไพล์ หวู่ จากแคนาดา
ในประเภทคู่ผสม จากรายชื่อนักกีฬาที่อยู่ในกลุ่ม คู่ผสมไทย มีโอกาส ดีมากที่จะเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายเป็นอันดับ 1 ในสาย และไปลุ้นการจับฉลากในรอบ 8 คนสุดท้าย ว่าจะไปพบนักกีฬาจากชาติใด ซึ่งเมื่อถึงตรงนั้น โอกาสที่จะคว้าเหรียญรางวัล ก็มีความเป็นไปได้สูง
“มั่นใจได้ว่า คู่ผสมไทย น่าจะผ่านเข้าเป็นอันดับ 1 ในกลุ่ม เข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้าย โดยที่ในประเภทคู่ กฎการแข่งขันจะต้องจับฉลากว่าใครจะพบกับใคร โดยที่เราเป็นอันดับ 1 ในกลุ่ม ก็จะจับฉลากรอพบอันดับ 2 ของกลุ่มที่เหลือ โอกาสที่คู่ผสมไทย จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เพื่อเข้าไปลุ้นเหรียญรางวัลก็มีค่อนข้างสูง” คุณหญิงปัทมา ระบุ
เผยแพร่: 2 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.