นักกีฬาไทยทัพใหญ่ 7 ชนิดกีฬาลัดฟ้าสู่ญี่ปุ่น สู้ศึกโอลิมปิก – ข่าวสด

นักกีฬาไทยทัพใหญ่ รวม 7 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย แบดมินตัน, ยิงปืน, เป้าบิน, จักรยาน, ว่ายน้ำ, มวยสากล และเทเบิลเทนนิสลัดฟ้าสู่ญี่ปุ่น ลุย โอลิมปิก

ความเคลื่อนไหวการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 ซึ่งจะมีขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 23 ก.ค. – 8 ส.ค.64 ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่และนักกีฬาไทยชุดใหญ่รวม 7 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย แบดมินตัน, ยิงปืน, เป้าบิน, จักรยาน, ว่ายน้ำ, มวยสากล และเทเบิลเทนนิส ชุดสู้ศึกโตเกียวเกมส์ 2020 ออกเดินทางสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ เที่ยวบินเจแอล 034 มุ่งหน้าสู่ประเทศญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับนักกีฬาไทยทัพใหญ่ที่ออกเดินทางไปในไฟล์ตดังกล่าว มีดังนี้ แบดมินตัน 7 คน ประกอบด้วย รัชนก อินทนนท์, บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์, กันตภณ หวังเจริญ, จงกลพรรณ กิติธารากุล, รวินดา ประจงใจ, เดชาพล พัววรานุเคราะห์, ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย จักรยาน 2 คน จุฑาธิป มณีพันธุ์ และ ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร ว่ายน้ำ 2 คน นวพรรษ วงค์เจริญ และ เจนจิรา ศรีสอาด ยิงเป้าบิน 3 คน เศวต เศรษฐาภรณ์, สุธิยา จิวเฉลิมมิตร และ อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข ยิงปืน 3 คน ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์, ธัญญากร พฤกษากร และ อิศรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ มวยสากล 4 คน ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี, สุดาพร สีสอนดี, ใบสน มณีก้อน และ จุฑามาศ จิตรพงษ์ เทเบิลเทนนิส 2 คน สุธาสินี เสวตรบุตร และ อรวรรณ พาระณัง

นาวาอากาศเอก (พิเศษ) นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ ซึ่งรับหน้าที่ “CLO” (COVID-19 Liaison Officer) ประสานเจ้าภาพในมาตรการป้องกันโควิด-19 ให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย ชุดทำศึกโตเกียวเกมส์ เผยว่า ผลการตรวจเชื้อโควิด-19 รอบสุดท้ายเมื่อ 15 ก.ค.64 ของคณะนักกีฬาไทยทุกคนพบว่าทุกคนยังปกติ ไม่มีใครติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งนักกีฬาทุกคนก็จะต้องตรวจเชื้ออีกครั้งเมื่อไปถึงสนามบินนาริตะ ด้วยวิธีการตรวจแบบน้ำลาย ซึ่งก่อนที่เครื่องจะลงแตะพื้นประมาณ 30 นาที ทีมที่เดินทางไปถึงญี่ปุ่นก่อนได้ฝากตนให้กำชับนักกีฬาทุกคน พยายามอย่ารับประทานอาหาร แปรงฟัน หรือบ้วนปาก เพราะอาจทำให้ผลการตรวจน้ำลาย อาจจะคลาดเคลื่อนได้

“ส่วนการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ นอกจากนักกีฬาจะต้องระมัดระวังการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่ผมได้กำชับนักกีฬาแต่ละคนไป ก็คือเรื่องสารกระตุ้น ก็ได้แจ้งไปในเรื่องของการรับประทานยารักษา ทุกครั้งก่อนใครจะทานยา หรือมีความจำเป็นต้องใช้ ก็จะต้องแจ้งมาที่ทีมแพทย์ของเราก่อน ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ให้ความรู้ในเรื่องสารกระตุ้นกับนักกีฬาทุกคนมาอย่างต่อเนื่อง ก็ยังเชื่อและมั่นใจในความเป็นมืออาชีพของนักกีฬาไทยจะไม่พลาดและมาตกม้าตาย เสียทีในเรื่องนี้อย่างแน่นอน”