ถอดบทเรียนทีมแบดมินตันไทยใน ‘โตเกียว 2020’ ความหวังเกิดขึ้นและยังไม่ดับลง – THE STANDARD – thestandard.co

“เวลาชนะ อย่าดีใจมาก เวลาแพ้คุณจะได้ไม่ต้องเสียใจจนเกินไป” คือคำกล่าวของ เจริญ วรรธนะสิน สุดยอดนักแบดมินตันของไทย

บ้านเรามีนักตบลูกขนไก่ระดับโลกมาตั้งนานแล้ว ในเวทีระดับสูงสุดอย่าง ออลอิงแลนด์ หรือชิงแชมป์โลกก็มีนักแบดมินตันไทยจารึกชื่อไว้เป็นตำนาน

เมื่อประสบความสำเร็จมามากมาย ใครๆ จึงอดคิดไม่ได้ว่า ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์  นักกีฬาไทยมีโอกาสที่จะคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้จากกีฬาแบดมินตัน

แต่ที่ทำได้ใกล้เคียงที่สุดก็คือ โอลิมปิกเกมส์ 2004 ที่เอเธนส์ ประเภทชายเดี่ยว ซูเปอร์แมน บุญศักดิ์ พลสนะ ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนแพ้ เทาฟิค ฮิดายัต และไปชิงเหรียญทองแดง แพ้ โซนี ดวี คุนโคโร จากอินโดนีเซีย ได้อันดับที่ 4

มาถึงการแจ้งเกิดของสาวน้อยมหัศจรรย์แห่งวงการแบดมินตันไทยอย่าง เมย์-รัชนก อินทนนท์ ที่คว้าแชมป์เยาวชนโลก 3 สมัยซ้อน และก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกได้ในที่สุด กับเหรียญโอลิมปิกเกมส์ ทำไมจะเป็นไปไม่ได้

มหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 นักหวดลูกขนไก่ไทยได้โควตาทั้งหมด 7 คน ได้แก่ ชายเดี่ยว กันต์-กันตภณ หวังเจริญ, หญิงเดี่ยว เมย์-รัชนก อินทนนท์, ครีม-บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์, หญิงคู่ กิ๊ฟ-จงกลพรรณ กิติธรากุล และ วิว-รวินดา ประจงใจ และคู่ผสม บาส-เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย

ความหวังสูงสุดในการคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ แฟนกีฬาไทยแอบเบี่ยงไปเป็น  เดชาพล-ทรัพย์สิรี ด้วยฟอร์มการเล่นในปี 2021 ที่สุดยอด คว้าแชมป์ 3 รายการใหญ่ในบ้านเราเมื่อเดือนมกราคม และพุ่งขึ้นเป็นคู่ผสมมือ 2 ของโลก

หากแต่ใครก็รู้ดีว่า เมย์ยังเป็นหนึ่งในความหวังสูงสุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ชายเดี่ยว กันตภณ, หญิงคู่ จงกลพรรณ-รวินดา ร่วงตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม จากนั้นบุศนันทน์ตกรอบ 16 คนสุดท้าย และคู่ผสม เดชาพล-ทรัพย์สิรี ก็ต้องหยุดเส้นทางแค่รอบก่อนรองชนะเลิศ

เมย์ รัชนก คือนักกีฬาแบดมินตันไทยคนสุดท้ายที่ต้องหวดกับ ไต้จืออิ่ง มือ 1 ของโลกจากไต้หวัน ก่อนที่สาวไทยจะแพ้ไป 1-2 เกม ตกรอบ 8 คนพร้อมทั้งน้ำตา นั่นคือ ภาพสรุปทุกอย่างของผลงานทีมแบดมินตันไทยในโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020

“เมย์ว่าตัวเองเล่นได้ดี ภูมิใจกว่าหลายๆ ครั้ง เล่นเต็มที่แล้วก็สนุกไปด้วย แม้ผลการแข่งขันจะออกมาไม่ดี สังเวียนนี้ต้องวัดกันด้วยใจจริงๆ”

ในรอยน้ำตานั้นเราได้รู้ว่าสภาพร่างกายของเมย์ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ก่อนแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ นั่นไม่ใช่ข้ออ้างแต่มันก็คือความจริง

ไหนจะมี ‘ดราม่า’ เรื่องเสื้อผ้าชุดแข่งขันของนักกีฬา เรื่องมองข้ามสำหรับบางคน แต่เป็นเรื่องใหญ่ของอีกคน จนต้องเปลี่ยนชุดใหม่กลางคัน มันเป็นคำถามสะท้อนกลับมาได้ว่า เรา ‘เต็มที่’ จริงๆ แล้วใช่หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในเส้นทางกีฬาก็เป็นไปอย่างที่เมย์ได้บอกไว้ มันไม่ใช่สิ่งที่จะตัดสินชีวิตว่าแพ้ครั้งนี้แล้วจะไม่เล่นอีกแล้ว โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส จะมาถึงในเวลาอีกแค่ 3 ปี

เมย์ยังเป็นหนึ่งในความหวังของนักกีฬาแบดมินตันไทยที่จะคว้าเหรียญโอลิมปิกไม่เปลี่ยนแปลง อาการบาดเจ็บยังคอยตามติด ความกดดันจะท่วมท้นเหมือนเดิม

แฟนๆ กีฬาคนไทยทั้งประเทศยังคอยให้กำลังใจ ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่ใส่ความกดดันโถมทับตัวเธอ

หากแต่เมย์ไม่ต้องสัญญาก็ได้ว่าจะคว้าเหรียญโอลิมปิกกลับมา

แต่ต้องสัญญาว่าจะไม่ร้องไห้อีก