ทรัพยากรที่ล้ำค่าที่สุดในโลกใบนี้คือ มนุษย์ ก่อนจะพัฒนาอย่างอื่น ต้องพัฒนาคนก่อนเป็นอันดับแรก
ชาวอังกฤษ…เป็นชนชาติที่ “คิดค้น-ให้กำเนิด” ชนิดกีฬามากที่สุดในโลกตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน… มีทั้งแบบสมัครเล่นและบางชนิดกีฬากลายเป็นธุรกิจหมื่นล้าน แสนล้านที่คนทั่วโลกคลั่งไคล้ โหยหา…
ชาวอังกฤษ ประกอบด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ พบว่า การเล่นกีฬาอย่างสนุกสนาน กติกาที่ยุติธรรม ผู้ตัดสินที่ยุติธรรม เป็นการหล่อหลอมผู้คนทั้งปวงให้เข้ามาเป็นเนื้อเดียวกันได้
การแข่งกีฬา คือ วิธีการหนึ่งในการสร้าง บ่มเพาะสังคม ฝึกการเคารพกฎกติกา ทำให้สังคมเคารพซึ่งกันและกัน …เป็นห้องเรียนในชีวิตจริง
ในประเทศไทย เคยมีคำกล่าวว่า กีฬาสร้างคน คนสร้างชาติ
เวลาที่ผ่านพ้นเป็นเครื่องพิสูจน์…ผู้คนต่างเผ่าพันธุ์ที่ไม่คุ้นเคยกัน กลับกลายเป็นสังคมที่มีจุดร่วมคิด รู้จักกติกา… กีฬา จุดประกายความคิดในการรวมตัวกัน และสร้างความปรองดองให้กับอาณาจักรย่อยๆ ในอังกฤษ และยังไปเชื่อมโยงกับบรรดาผู้คนในอาณานิคมของอังกฤษทั่วโลก
ให้เข้าใจกันง่ายๆ …United Kingdom หรือ UK มีความหมายภาษาไทยว่า สหราชอาณาจักร ประกอบด้วย 4 แคว้น
…3 แคว้นอยู่บนเกาะอังกฤษ คือ แคว้นอิงแลนด์ แคว้นสกอตแลนด์ และแคว้นเวลส์ อีก 1 แคว้นอยู่บนเกาะไอร์แลนด์เหนือ
ภาษาที่ใช้ในแต่ละแคว้น…แตกต่างกัน เคยรบราฆ่าฟันกัน
ผู้เขียน ขอใช้ศัพท์เรียกรวมๆ แบบง่ายๆ ไม่สับสน ว่า “คนอังกฤษ” และ “เกาะอังกฤษ” นะครับ…
อังกฤษ พบและตระหนักว่า การแข่งกีฬา คือ วิธีการสร้างสังคมให้เป็นปึกแผ่น ที่แตกแยกรวมกันเป็นหนึ่งได้ คนในชาติแข็งแรง ประเทศชาติแข็งแรง ในยุคพระราชินีวิกตอเรีย มีการคิดค้นชนิดกีฬามากที่สุด
อังกฤษเป็นประเทศที่เป็นหมู่เกาะ มีอากาศเปลี่ยนแปลงเสมอ มีฝนตกพรำๆ น่าเบื่อ มืดครึ้ม ทางตอนเหนือจะหนาวมากกว่าทางตอนใต้
อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดจะอยู่ในช่วงเดือน มกราคม 1-4 องศาเซลเซียส และมีอุณหภูมิสูงสุดในช่วงเดือนกรกฎาคมราว 18 องศา มี 4 ฤดู
ฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม-พฤษภาคม อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 15-20 C เป็นช่วงเวลาที่ดอกไม้บาน อากาศจะเปลี่ยนแปลงวูบวาบ บางวันอากาศอบอุ่น แดดจัดในตอนเช้า ฝนตกในช่วงบ่าย ตอนค่ำหนาวเย็น
ฤดูร้อน เดือนมิถุนายน-สิงหาคม อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 15-32 องศา อบอุ่น และมีแดด คนอังกฤษจะคึกคัก ผู้คนออกมาข้างนอก นั่งตากแดด นั่งเล่นตามสวนสาธารณะ ทำกิจกรรมกลางแจ้งซึ่งเป็นฤดูที่คนอังกฤษชอบ มีความสุขมากที่สุด
ฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน-พฤศจิกายน อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 8-14 C เป็นช่วงที่ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองสวยงาม เริ่มมีน้ำค้างเกาะกระจกรถในตอนกลางคืน
ฤดูหนาว เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 0-4 C อากาศจะหนาวมากที่สุด มีหิมะตกในบางพื้นที่ กลางคืนจะยาวกว่ากลางวันและมืดเร็ว ดินแดนสกอตแลนด์แทบจะกลายเป็นเมืองน้ำแข็ง
ฝรั่งอังกฤษ จะมีความสุข อารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสเมื่อยามมีแสงแดดสาดส่อง ผู้คนผิวขาว และขาวซีด จะโหยหา หิวกระหายแสงแดดถึงขนาดขอแก้ผ้านอนอาบแดดโดยไม่ต้องอายใคร…
กีฬากลางแจ้งทั้งปวง หลากชนิด เกิดจากผู้คนบนเกาะ ต้องการออกมาเจอแสงแดดแบบไม่อั้น
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กองทัพอังกฤษได้คิดค้น ทุ่มเทกับการเล่นกีฬา หาโค้ชมาดูแลทหารและปลุกฝังการทำงานเป็นทีม สร้างขวัญกำลังใจให้ทหาร ซึ่งก็คือ ประชาชนคนหนึ่ง…
นายจอห์น เมเจอร์ อดีต นรม.อังกฤษ (28 พ.ย. 1990-19 มิ.ย. 1997) เป็นผู้นำการส่งเสริมกีฬาเคยกล่าวว่า :
“… เราคิดค้นกีฬาที่ยิ่งใหญ่ เป็นส่วนใหญ่ของโลก …ในศตวรรษที่ 19 สหราชอาณาจักรเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติการพักผ่อนที่สำคัญพอๆ กับการปฏิวัติเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมที่เราเปิดตัวในศตวรรษก่อน…”
ฝรั่งอังกฤษที่อยู่บนเกาะที่แสนจะกำพร้าแดด เป็นชนชาติที่แสวงหาวิธีการออกกำลังกายแสดงความสนใจในกีฬาอย่างลึกซึ้งและมีความหลากหลายมากกว่าชนชาติอื่น เป็นพวกอนุรักษนิยมตัวพ่อ ตัวแม่ ให้ความภาคภูมิใจในประเด็นทางศีลธรรม ความซื่อตรง ความมีน้ำใจนักกีฬาและการเล่นที่ยุติธรรม
ดินแดนแห่งนี้ ได้ให้กำเนิดกีฬา รวมทั้งจัดตั้งสมาคมมาตั้งแต่อดีต คือ ฟุตบอล แบดมินตัน บิลเลียด มวย คริกเก็ต โครเก้ ดัดผม ปาเป้า กอล์ฟ ฮอกกี้ เน็ตบอล รักบี้ เทนนิส ปิงปอง สนุกเกอร์ สควอช และโปโลน้ำ กำหนดกติกาการพายเรือ…
กีฬาแบดมินตัน…ก่อกำเนิดแบบมีหัวนอนปลายตีน…
ในยุโรปช่วงตอนปลายศตวรรษที่ 17 มีภาพสีน้ำมันหลายภาพยืนยันว่า แบดมินตัน เล่นกันอย่างแพร่หลายในพระราชวงศ์ของราชสำนักต่างๆ ในทวีปยุโรป มีชื่อเรียกเกมนี้แตกต่างกันไป
พ.ศ.2413 (ตรงกับรัชสมัยในหลวง ร.5) มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรว่า มีการเล่น “กีฬาลูกขนไก่” เกิดขึ้นที่เมืองพูนา (Poona) ในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ไม่ไกลจากเมืองบอมเบย์
ในช่วงเวลาเดียวกัน…มีเกมชนิดหนึ่งสำหรับเด็กในอังกฤษชื่อ แบตเทิลดอร์และลูกขนไก่ การเล่น คือ ใช้ไม้แบนๆ ตีจุกขนนก ขนาดเล็ก ตีขึ้นฟ้าให้ลอยอยู่ในอากาศได้นานที่สุด
ทหารอังกฤษที่ประจำการในอินเดียมีเวลาว่าง อยากออกกำลัง คิดดัดแปลงโดยเพิ่มตาข่ายกั้นกลาง ตีไป-มา ก็กลายเป็นการแข่งขันที่เรียกว่า พูนา (Poona)
เมื่อผสมผสานกีฬา 2 อย่างเข้าด้วยกันคือ การเล่นพูนาของชาวอินเดีย และการเล่นไม้ตีกับลูกขนไก่ (Battledore Shuttle Cock) ของยุโรป เอาตาข่ายมากั้นกลาง ตีลูกขนไก่ไป-มา ก็กลายเป็นเรื่องสนุก
อาจจะอนุมานได้ว่า…แบดมินตัน มีกำเนิดจากทหารอังกฤษในอินเดีย
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อมูลอีกหลายสำนักระบุว่า แบด มินตัน เกิดจากที่นั่น ที่นี่ ก็เลือกเชื่อตามอัธยาศัยนะครับ…
ทหารอังกฤษที่ปกครองอินเดียที่เมืองพูนา และสมาชิกชนชั้นสูงของอินเดียเริ่มนำการตีลูกขนไก่มาเล่น…แพร่หลายออกไป
ต่อมา…ทหารอังกฤษที่เคยไปประจำการอยู่ที่เมืองพูนา นำการเล่นตีลูกขนไก่นี้กลับไปเผยแพร่ในสังคมอังกฤษ …
วันหนึ่ง ในปี พ.ศ.2416 ดุ๊คแห่งบิวฟอร์ท (Duke of Beaufort) เมือง กลอสเตอร์เชียร์ จัดงานปาร์ตี้กลางแจ้ง นาย
ทหารอังกฤษนำกีฬาตีลูกขนไก่ไปเล่นกลางแจ้ง แขกเหรื่อที่มาในงานชอบใจ เป็นของสนุก แปลกใหม่ ได้ออกกำลัง…
บ้านของท่าน ดุ๊ค ชื่อว่า “บ้านแบดมินตัน” กีฬาตีลูกขนไก่ไป-มา ข้ามตาข่าย เลยถูกเรียกว่า “แบดมินตัน” (The Badminton Game) ตามชื่อบ้านตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
กีฬาแบดมินตัน แจ้งเกิด กลายเป็นวิธีการการยืดเส้น ยืดสาย ที่สนุกสนานของชาวอังกฤษเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ประเภท เป็นวิธีการออกกำลังที่ไม่น่าเบื่อ ไม่ต้องปะทะกันให้เจ็บตัว ไม่สิ้นเปลือง
คนอังกฤษ แสนจะเจ้าระเบียบ พิธีรีตองเยอะ เล่นแบดมินตัน ยังต้องแต่งกายมิดชิด กระโปรงยาว ราวยังกับจะไปงานราตรีสโมสร (ดูภาพ)
หลังจากกีฬาแบดมินตัน ได้รับความนิยมแพร่กระจายไปในสังคมเมืองผู้ดี ด้วยลักษณะนิสัยของชาวอังกฤษ ที่ชอบตั้งกติกา ร่างระเบียบ ชอบการแข่งขันอย่างยุติธรรม กฎข้อแรกที่เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการได้ถูกร่างขึ้นในปี พ.ศ.2420 โดยสโมสรแบดมินตันบาธ
ชาวยุโรป รักการออกกำลังเป็นชีวิตจิตใจ ลักษณะกีฬาแบดมินตันที่โดนใจที่สุด คือ สามารถเล่นได้ภายในตัวตึก โดยไม่ต้องกังวลต่อลม หรือหิมะในฤดูหนาว เล่นได้แม้ในซอกตึก ที่เรียกเหงื่อได้ไม่อั้น
ชาวยุโรปที่อพยพไปอเมริกา นำกีฬาตีลูกขนไก่ไปเผยแพร่ รวมทั้งประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชียและออสเตรเลียที่อยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ ต่างนำเกมแบดมินตันไปเล่นยังประเทศของตนเองอย่างแพร่หลาย แบดมินตันจึงกระจายไปสู่ส่วนต่างๆ ของโลก รวมทั้งสยามประเทศ
การเล่นแบดมินตันในระยะแรกไม่ได้มีกฎเกณฑ์ตายตัว เพียงแต่เป็นการตีโต้ลูกกันไปมาไม่ให้ลูกตก เส้นแบ่งแดนก็ใช้ตาข่ายผูกโยงระหว่างต้นไม้ 2 ต้นไม่ได้คำนึงถึงเรื่องต่ำสูง เล่นกันข้างละไม่น้อยกว่า 4 คน ส่วนมากจะเล่นทีมละ 6 ถึง 9 คน สนุกสนานเฮฮา
พ.ศ.2436 เมื่อแบดมินตันเดินหน้าไปไกล มีการจัดตั้งสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศอังกฤษขึ้น ซึ่งนับเป็นสมาคมแบดมินตันแห่งแรกของโลก…อังกฤษต้องแสดงศักยภาพขอจัดการแข่งขันก่อนประเทศอื่น…
“เจ้าสำนัก” ต้องชิงลงมือก่อน…ประกาศความเป็นผู้นำของโลก
พ.ศ.2441 (ตรงกับช่วงกลางรัชสมัยในหลวง ร.5) อังกฤษจัดแข่งขันแบดมินตันชิงชนะเลิศ หรือที่เรียกกันว่า ออลอิงแลนด์ (All England Open Badminton Championships) ณ เมืองกิลฟอร์ด (Guildford) เป็นการแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก
มีการปรับปรุง ดัดแปลงอุปกรณ์การเล่น กีฬาชนิดนี้ เป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก ประเทศในเอเชียได้รับความนิยมสูงสุดคือ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย
พ.ศ.2477 อังกฤษจัดตั้งสหพันธ์แบดมินตันนานาชาติ (IBF) โดยมีสมาชิก 9 ชาติ คือ แคนาดา เดนมาร์ก อังกฤษ ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ สกอตแลนด์และเวลส์
24 กันยายน 2549 ในการประชุมที่ กรุงมาดริด ได้มีการเปลี่ยนชื่อ สหพันธ์ใหม่เป็น สหพันธ์แบดมินตันโลก BWF (Badminton World Federation)
แบดมินตันจากยุโรปมาสู่ราชอาณาจักรสยาม
ฝรั่งจากยุโรปเข้ามารับราชการ ตั้งโรงเรียน ติดต่อค้าขาย ลงหลักปักฐาน รวมถึงนักเรียนจากสยามที่ไปศึกษาจากยุโรปมาต่างคุ้นเคยกับกีฬาแบดมินตัน
ราวปี พ.ศ.2456 มีบันทึกว่า สยามเริ่มเล่นกีฬาแบดมินตันแบบมี ตาข่าย โดยพระยานิพัทยกุลพงษ์ ได้สร้างสนามขึ้นที่บ้านที่อยู่ริมคลองสมเด็จเจ้าพระยาธนบุรี
ต่อมาเล่นตีลูกขนไก่แพร่หลายออกไป ส่วนมากเล่นกันตามบ้านผู้ดีมีตระกูล วังเจ้านาย และในราชสำนัก ครั้งกระโน้น นิยมเล่นข้างละ 3 คน
พ.ศ.2493 จัดตั้งสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย โดยมีผู้มีใจรักกีฬาแบดมินตันกลุ่มหนึ่ง อาทิ หลวงธรรมนูญวุฒิกร (นายประวัติ ปัตตพงศ์) นายยง อุทิศกุล นายณัติ นิยมวานิช ได้ร่วมก่อตั้งสมาคมฯ ขึ้น พร้อมกับเรียนเชิญพระยาจินดารักษ์ (นายจำลอง สวัสดิชูโต) มาเป็นนายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยคนแรก
พ.ศ.2494 สมาคมฯ ไปจดทะเบียนเป็นสมาชิกของสหพันธ์แบดมินตันนานาชาติ IBF เป็นสมาชิกอันดับที่ 19 ของโลก
พ.ศ.2498 สมาคมฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อยู่ภายในพระบรมราชูปถัมภ์
ประเด็นที่ผู้เขียนสนใจ ชื่นชอบ จากการติดตามจากสื่อมวลชน
นายกสมาคมฯ ท่านปัจจุบัน คือ คุณหญิง ปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล สตรีเหล็กผู้มากด้วยความสามารถ ท่านนี้ คือ 1 เดียวจากประเทศไทยที่มีตำแหน่งเป็นรองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) เป็นรองประธานคนที่ 1 ของสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) เป็นนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ บอร์ดบริหาร OCA และท่านยังมีตำแหน่งในอีกหลายองค์กรด้านการกีฬาระดับโลก มูลนิธิ งานการกุศล ที่ทำงานเพื่อสังคม สมาคมฯ ตั้งใจแน่วแน่ที่จะให้แบดมินตันเป็นกีฬามหาชน และมุ่งสู่ความเป็นเลิศในระดับโลก
นายกสมาคมฯ กำลังวางแผนทำอะไรที่ไม่ธรรมดา?
ปัจจุบันสหพันธ์แบดมินตันโลกมีสมาชิก 194 ประเทศ ช่วงโควิด-19 แผลงฤทธิ์ มีการจัดโปรแกรมการแข่งขันใหม่สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2020 โดยจะเหลือการแข่งขันเพียง 6 รายการหลักเท่านั้น
เริ่มจากทีมชายหญิงชิงแชมป์โลก “โธมัส-อูเบอร์คัพ 2020” ระหว่าง 3-11 ตุลาคม 2563 ที่ประเทศเดนมาร์กและจะต่อด้วยศึกเวิร์ดทัวร์ระดับซุปเปอร์ 750 อีก 2 รายการต่อเนื่องไป จัดที่เดนมาร์กเช่นกัน
ส่วนอีก 3 รายการที่เหลือ สหพันธ์แบดมินตันโลก มีมติให้หมุนเวียนนำมาจัดแข่งใน ทวีปเอเชีย….
2 รายการแรกเป็นระดับซุปเปอร์ 1000 ก่อนจะปิดท้ายด้วยเวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ ในสัปดาห์ที่ 46-47-48 ที่จะจัดแบบต่อเนื่อง 25 วันในเดือนพฤศจิกายน 2563 นี้
นายกสมาคมฯ เห็นว่า เมื่อเป็นวงรอบหมุนมาที่ทวีปเอเชีย นี่คือโอกาสทอง จึงขอมุ่งมั่น เดินหน้าเต็มพิกัด เพื่อจะขอดึงให้มาจัดการแข่งขัน 3 รายการในประเทศไทย
ถ้าประเทศไทยเป็นประเทศเจ้าภาพจัดการแข่งขัน จะเป็นความสง่างาม เป็นศักดิ์ศรี เพื่อประกาศให้โลกได้ทราบถึงศักยภาพประเทศไทยเป็นเมืองปลอดภัย ส่งเสริมการท่องเที่ยว
ทั้ง 3 รายการแข่งขัน ถือว่าเป็นรายการแกรนด์สแลมของวงการแบดมินตัน ถ้าไทยได้เป็นเจ้าภาพจัด จะถือเป็นเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ จะเป็นครั้งแรกของไทยที่ได้เป็นเจ้าภาพ…
จะมีนักแบดมินตันมืออันดับ 1-40 ของโลก จากกว่า 20 ประเทศ โค้ช ผู้ติดตาม ทีมงาน รวมทั้งครอบครัว จะเดินทางเข้ามาพักในไทยราว 500-600 คน
จะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันไปทั่วโลกตั้งแต่วันแรกไปจนจบ 3 รายการไปยังผู้ชมราว 800 ล้านครัวเรือน
ในเวลานี้…นายกสมาคมฯ คงต้องทุ่มเท ที่จะเจรจาให้ BWF และสมาชิกเห็นชอบที่จะให้ไทยเป็นเจ้าภาพ เพราะหลายประเทศต่างประสงค์ ขอเป็นเจ้าภาพ
อุปสรรค ขวากหนามก็พอมีอยู่…ท่ามกลางสภาวะ covid-19 ที่ไม่เป็นมิตรกับคนทั่วโลก
ถ้าได้เป็นเจ้าภาพ…นั่นหมายถึงจะมีคนจำนวนหนึ่งเดินทางเข้ามาในประเทศ ซึ่งก็ไม่น่าเกินความสามารถที่จะควบคุมตามระเบียบ
หากแต่ถ้าเรามีมาตรการที่รัดกุม เคร่งครัด ปฏิบัติตามเงื่อนไขของ ศบค.ทุกประการเป๊ะ …การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ มีหลักการ ถือว่า เป็นเหตุ เป็นผล เป็นประโยชน์ และจะเป็นการทำงานระดับโลกที่หาได้ไม่ง่ายนัก
สมาคมฯ คงต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะจากรัฐบาล ที่จะผลักดันที่จะทำให้ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพ… เพราะนี่คือ หน้าตา ของประเทศที่สมาคมฯ พร้อมที่สุด ด้วยประการทั้งปวง…
ขออวยชัยให้พรให้การทำงานของสมาคมแบดมินตันฯ ประสบผลสำเร็จ…กีฬาสร้างคน คนสร้างชาติ…
ข้อมูลบางส่วนจาก thaibadminton.com
ภาพจาก khaosod.com และ badmintonskills.com