“ซีเกมส์” กี่ครั้งๆ ก็ยังเหมือนเดิม | เดลินิวส์

กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.ปีหน้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประชาชนชาวกัมพูชา ที่จะได้จัดมกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งภูมิภาคอาเซียน

ล่าสุด “พนมเปญเกมส์ 2023” ได้บทสรุปเรื่องของจำนวนชนิดกีฬาและเหรียญทอง ที่จะมีการชิงชัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้จะมีการแข่งขันทั้งหมด 37 ชนิดกีฬา มีชิงชัยรวม 608 เหรียญทอง ถือเป็นการชิงเหรียญทองครั้งที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ เลยทีเดียว

37 กีฬา กับ 608 ทอง จำแนกได้ดังนี้ กรีฑา 47 ทอง, กีฬาทางน้ำ (ว่ายน้ำ 39 ทอง, กระโดดน้ำ 4 ทอง,โปโลน้ำ 2 ทอง, ฟินสวิมมิ่ง 24 ทอง), แบดมินตัน 8 ทอง, บาสเกตบอล 4 ทอง, บิลเลียด-สนุกเกอร์ 10 ทอง, มวยสากล 17 ทอง, เพาะกาย 15 ทอง, หมากรุก 12 ทอง, คริกเก็ต 8 ทอง

จักรยาน 9 ทอง, แดนซ์สปอร์ต 12 ทอง, อีสปอร์ต 9 ทอง, ฟันดาบ 12 ทอง, ฟลอร์บอล 2 ทอง, ฟุตบอล 2 ทอง, กอล์ฟ 4 ทอง, ยิมนาสติก-อาร์ตทิสติก 8 ทอง, ยิมนาสติกแอโรบิก 5 ทอง, ฮอกกี้ 4 ทอง, เจ็ตสกี 6 ทอง, ยูโด 13 ทอง, คาราเต้ 17 ทอง, อาร์นิส 12 ทอง, ยูยิตสู 13 ทอง, คิกบ๊อกซิ่ง 17 ทอง คุนโบกาตอร์ 21 ทอง

มวย 17 ทอง, โววีนั่ม 30 ทอง, ออบสตัสเคิล เรช 4 ทอง, ปันจักสีลัต 22 ทอง, เปตอง 11 ทอง, เรือใบ 9 ทอง, ซอฟท์เทนนิส 7 ทอง, เซปักตะกร้อ 22 ทอง, เทเบิลเทนนิส 7 ทอง, เทควันโด 24 ทอง, เรือยาว 13 ทอง, เทนนิส 7 ทอง,ไตรกีฬา 7 ทอง, วอลเลย์บอล 4 ทอง, ยกน้ำหนัก 14 ทอง, มวยปล้ำ 30 ทอง, วูซู 24 ทอง

เป็นที่น่าเสียดายที่ครั้งนี้ไม่มี “ฟุตซอล” กีฬาความหวังเหรียญทอง ที่ ทีมโต๊ะเล็กไทย ผูกขาดแชมป์มาหลายสมัย รวมถึง “รักบี้ฟุตบอล” บรรจุชิงเหรียญแต่อย่างใด

ซีเกมส์หลายๆ ครั้งที่ผ่านมา เจ้าภาพ มักจะบรรจุ “กีฬาพื้นบ้าน” ชิงเหรียญทองเป็นจำนวนมาก แม้ที่ประชุมมนตรีซีเกมส์ ที่นำโดย ไทย จะพยายามเรียกร้องให้เน้น “กีฬาสากล” ที่มีแข่งขันในสากลโลก เป็นหลัก แต่ก็เปล่าประโยชน์ เพราะเจ้าภาพ มีการลงทุนไปเยอะ ย่อมต้องการโกยเหรียญทองให้มากที่สุด เพื่อผลตอบรับจากประชาชนในประเทศเช่นกัน

“พนมเปญเกมส์ 2023” ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน มีหลายๆ ชนิดกีฬา ที่แม้แต่ชื่อ ก็เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรก อย่าว่าแต่แฟนกีฬาที่ไม่รู้จักเลย สื่อมวลชนกีฬาเอง ก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาเล่นกันยังไง นักกีฬาไทยเองก็คงจะคงงงๆ กับกติกาการแข่งขันเหมือนกัน

ฉะนั้นจึงไม่แปลกอะไร ถ้าเป้าหมายการครอง “เจ้าเหรียญทอง” ของ “ทัพไทย” ที่ “ภาครัฐ” ตั้งเป้าหมายเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา จะกลาย “เป็นหมัน” ไปอีกครั้ง

ขอเพียงกีฬาหลักๆ ที่มีแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ อย่างเช่น ฟุตบอล วอลเลย์บอล กรีฑา ว่ายน้ำ แบดมินตัน เทควันโด หรือกระทั่ง “ตะกร้อ” ช่วยกันกวาดเหรียญทองให้ตรงตามเป้าหมายเข้าไว้ เชื่อว่าเพียงแค่นี้คนไทยก็จะมีรอยยิ้มและความสุขใจแล้วละนาย

ศรีเชลียง