เอสซีจี หนุนนักกีฬาสู้ศึกปี 2022 บาส-ป้อ ลั่นแกร่งขึ้นอีก 4สาวพร้อมลุยสะวิงแอลพีจีเอ – มติชน

เอสซีจี หนุนนักกีฬาสู้ศึกปี 2022 บาส-ป้อ ลั่นแกร่งขึ้นอีก 4สาวพร้อมลุยสะวิงแอลพีจีเอ

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เป็นประธานในงานแถลงข่าว “PASSION NEVER STOPS มุ่งมั่น ทุ่มเท ไม่เคยหยุด” ร่วมแสดงความยินดีให้กำลังใจ และร่วมพูดคุยกับ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์- “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย นักแบดมินตันประเภทคู่ผสมมืออันดับ 1 ของโลก รวมทั้ง 4 โปรกอล์ฟสาวไทยระดับโลกนำโดย “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล, “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล, “โปรเมียว” ปาจารีย์ อนันต์นฤการ และ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล ที่มาร่วมพูดคุยถึงแรงบันดาลใจไม่เคยหยุด ที่อาคารอเนกประสงค์ ฮอลล์ 1-2 สำนักงานใหญ่เอสซีจี บางซื่อ เมื่อวันที่ 6 มกราคม

นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่า ขอชื่นชม และยินดีกับนักกีฬาทั้ง 6 คนที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก โดยเฉพาะบาส-ปอป้อที่เป็นคู่ผสมมืออันดับ 1 ของโลกเป็นครั้งแรก รวมทั้งนักกอล์ฟสาวทั้ง 4 คนที่ก้าวไปถึงระดับโลก และเป็นการกรุยทาง รวมทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ รุ่นต่อไปในเดินตามความฝัน นอกจากนี้ ยังต้องขอบคุณทีมงานเบื้องหลังที่ทำให้ทุกคนมาถึงจุดนี้ และขอให้กำลังใจเอสซีจี แบดมินตัน อคาเดมี ซึ่งเป็นรากฐานในการผลิตนักแบดมินตันระดับโลก สำหรับในปี 2022 นี้ขออวยพรให้นักกีฬาทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุข เดินทางไปแข่งขันโดยสวัสดิภาพ และขอเป็นกำลังใจให้ประสบความสำเร็จ

“ผมขอขอบคุณผู้อยู่เบื้องหลังทุกคน ทั้งผู้ฝึกสอน และทีมงาน ที่เตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬาเต็มรูปแบบ เพื่อช่วยยกระดับทักษะ และความสามารถของนักกีฬาให้ทัดเทียมระดับโลก นับเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจของคนไทย 6 นักกีฬา ที่คว้าแชมป์ และรางวัลมากมายตลอดปี 2021 โดยเฉพาะกีฬาแบดมินตัน บาส-ปอป้อ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันคู่ผสมคู่แรกของไทยที่คว้าแชมป์โลก และขึ้นเป็นมือหนึ่งของโลกสำเร็จ และยังสามารถคว้าแชมป์ระดับเวิร์ดทัวร์ได้ทั้งหมด 8 รายการ โดยเป็นการคว้าแชมป์ติดต่อกัน 5 รายการ” นายรุ่งโรจน์ กล่าว

ขณะที่ บาส และปอป้อ ร่วมกันกล่าวว่า ปีที่ผ่านมาเราได้พัฒนาด้านจิตใจ ควบคุมสติได้ดีขึ้น และมีรูปแบบเกมที่เหมาะสมกับคู่เรา ทำให้คว้ามาได้ 8 แชมป์ และ 5 แชมป์ติดต่อกัน รวมทั้งยังได้ ศ.ดร.เจริญ กระบวนรัตน์ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์การกีฬา เอสซีจี แบดมินตัน อคาเดมี ดูแลเรื่องสภาพร่างกายให้ฟื้นฟูได้ทันในการแข่งขันติดกัน ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก สำหรับการแข่งขันปีนี้จะไม่กดดัน และจะเพิ่มความมั่นใจ ตั้งใจที่จะพัฒนาให้เก่งกว่าเดิม ส่วนเป้าหมายหลักคืออยากคว้าแชมป์ 2 รายการที่ยังทำไม่ได้คือ ออลอิงแลนด์ ที่ประเทศอังกฤษ และเอเชี่ยนเกมส์ 2022 ที่นครหางโจว ประเทศจีน รวมทั้งปลายปีจะป้องกันแชมป์โลกเอาไว้ให้ได้

คู่ขนไก่สะท้านโลกกล่าวอีกว่า ในปีหน้าจะพยายามรักษามาตรฐานให้ได้ทุกแมตช์ ซึ่งยอมรับว่าที่ผ่านมาก็มีเหนื่อย และล้าบ้าง แต่เราก็ต้องรู้เป้าหมาย และบอกตัวเองว่าท้อได้ไม่นาน จะต้องเริ่มต้นใหม่ ต่อสู้กับจิตใจตัวเอง ที่ผ่านมาคู่ของเราไม่เคยทะเลาะกัน ในเกมก็จะช่วยกันหาทางออกที่ดีที่สุด นอกจากนี้ ก็อยากจะขอบคุณ เอสซีจี แบดมินตัน อคาเดมี ที่วางรากฐานให้เรามากว่า 10 ปี ทำให้พัฒนาศักยภาพของเราดีขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน

ด้าน 4 โปรกอล์ฟหญิง ซึ่งสามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ด้วยการคว้าเเชมป์รายการระดับโลกในศึกแอลพีจีเอ ทัวร์ และเลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ โดย “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล ที่คว้าเเชมป์ 2 รายการ คือ Honda LPGA Thailand และ Dow Great Lakes Bay Invitational ซึ่งเป็นการแข่งขันประเภทคู่ โดยได้แชมป์ร่วมกับ “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล

ส่วน “โปรเมียว” ปาจารีย์ อนันต์นฤการ คว้าแชมป์แรกให้ตัวเองได้สำเร็จจากรายการ ISPS Handa World Invitational และ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล แชมป์ Tipsport Czech Ladies Open และแชมป์ VP Bank Swiss Ladies Open พร้อมรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี และดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี พร้อมทำสถิตินักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดคว้ารางวัล Race to Coste del Sol หรือนักกอล์ฟมือ 1 ของเลดี้ส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์

โปรโม กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่สนุก และได้เรียนรู้มากมาย สำหรับปีนี้คงต้องพัฒนาทั้งเกมการเล่น และความคิด โดยไม่โฟกัสเป้าหมายว่าจะต้องคว้าแชมป์ แต่จะพยายามทำให้ดีขึ้น การทำให้ตัวเองพร้อมสำหรับการแข่งขัน ไม่ได้หมายถึงแค่ทักษะการเล่นแต่เป็นเรื่องของจิตใจด้วย

“โมอยู่ในทัวร์มาหลายปี เรื่องสำคัญที่ต้องบอกตัวเองคือ รักษาความมุ่งมั่นไว้ บอกตัวเองว่า นี่คือเกมที่เรารัก เกมที่เรามีแพสชั่นเป็นทั้งชีวิต และจิตใจเรา เรื่องการพัฒนาทักษะเราต้องให้ความสาคัญในทุกจุด ต้องวิเคราะห์ตัวเอง จุดไหนอ่อนต้องเสริม จุดไหนทำได้ดีแล้วต้องเสริมทำให้ดีขึ้นไปอีก การซ้อมของโมจะเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ โฟกัสในสิ่งที่เราต้องการจากการซ้อมนั้นๆ” โปรโมกล่าว

ขณะที่ โปรเม กล่าวว่า ปีที่ผ่านมามีหลายๆ ความรู้สึกทั้งช่วงเวลาที่ดี และไม่ดี หรือว่าต้องต่อสู้กับความรู้สึก ความกลัวของตัวเอง แต่ก็ขอบคุณตัวเองที่ควบคุมสติได้ดี และเป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทายมาก รู้สึกดีใจที่เห็นนักกีฬากอล์ฟจากไทยเพิ่มขึ้นมาหลายคนในเวทีระดับโลก ส่วนตัวมองว่าเราไม่ได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับน้อง แต่รู้สึกว่าน้องๆ เป็นแรงบันดาลใจให้กับเราเองมากกว่า เพราะเวลาที่เห็นน้องๆ ประสบความสำเร็จ จะหันกลับมามองตัวเองทุกครั้งว่า เราซ้อมและมีความมุ่งมั่นได้เหมือนกับรุ่นน้องหรือไม่

“ปีที่ผ่านมา เมได้เห็นรุ่นน้องมีผลงานที่โดดเด่น เป็นแรงผลักดันให้เมอยากทาให้ดีกว่าเดิม เห็นน้องๆ ทุ่มเทกันเกินร้อยแล้วทำให้เมนึกถึงตัวเองว่าเราก็เคยเป็นแบบนั้น กลับมาช่วงพักซีซั่น นอกจากการซ้อมกอล์ฟแล้ว เมให้เวลากับเวิร์กเอาต์มากขึ้น เป็นส่วนสาคัญที่พัฒนาร่างกายให้แข็งแกร่งพร้อมกับการแข่งขันต่อเนื่องตลอดปี เมตั้งใจกลับมาคว้าแชมป์รายการใหญ่ให้ได้ ทำอันดับโลกให้ดีกว่าเดิม เหมือนเมกับน้องๆ เป็นแรงบันดาลใจซึ่งกัน และกัน”

“โปรเม” กล่าวเพิ่มเติมว่า บางครั้งที่ตัวเองรู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกเครียด ไม่อยากตีกอล์ฟ หรือตื่นมาทำอะไรเหมือนเดิมซ้ำๆ แต่เราตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกใหม่ได้ตลอด ก็จะพยายามหาความรู้สึกใหม่ๆ ให้ตัวเอง หาแพสชั่นให้ตัวเอง พอเรามองทุกอย่างให้ลึกลงไป รู้สึกว่าการตีกอล์ฟของเรายังสามารถทำอะไรได้อีกมากมาย ที่ไม่ใช่แค่การตีกอล์ฟ ส่วนเป้าหมายในปีนี้อยากพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ 2-3 ปีที่ผ่านมา รู้สึกว่าเรื่องจิตใจยังทำได้ไม่ค่อยดี ก็อยากจะพัฒนาในจุดนั้นให้แข็งแแกร่งขึ้น

โปรเมียว กล่าวว่า การคว้าแชมป์แรกในแอลพีจีเอ ทัวร์ ในรายการรายการ แฮนดา เวิลด์ อินวิเตชันแนล ได้รู้สึกตื่นเต้นมาก 3-4 วันแรกตัวเองเล่นได้ดี และโฟกัสกับเกมได้จนจบทัวร์นาเมนต์ เพราะเป็นโอกาสที่เราจะคว้าแชมป์แรกได้ ก็พยายามบอกตัวเองให้โฟกัสกับปัจจุบันจริงๆ เพราะเริ่มมองถึงอนาคตของตัวเองในรายการต่อๆ ไปแล้วด้วย และเป็นกำลังใจที่ดี ที่ทำให้เราได้พัฒนาหลายๆ อย่างที่ผ่านมา ได้เห็นพัฒนาการของตัวเอง

“เป้าหมายในปีนี้ ต้องบอกว่าทุกอย่างที่เมียวทุ่มเทใช้เวลาให้กับกีฬากอล์ฟค่อนข้างมาก เรามีความคาดหวังอยู่แล้ว และพยายามโฟกัสกับสิ่งที่ทำได้ และจะพยายามตีแฟร์เวย์ให้ดีมากขึ้น เปิดโอกาสให้ตัวเองขึ้นช็อตได้ดี ใช้เวลาซ้อมชิพให้เยอะขึ้น และมองถึงแชมป์ที่ 2 ต่อในปีนี้” โปรเมียว กล่าว

โปรเมียว กล่าวเพิ่มว่า อยากให้เยาวชนทุกคนทุ่มเท และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด พยายามบอกตัวเองว่าเมื่อไหร่ที่เจออุปสรรค ก็อยากให้เรียนรู้กับประสบการณ์ เพราะทุกๆ ประสบการณ์จะสอนเราเสมอ และขอให้ทุกคนอย่าท้อ จงเชื่อมั่นว่าจะต้องมีวันที่ดีของเราในข้างหน้า

กอล์ฟเป็นกีฬาที่สอนให้เมียวได้เรียนรู้อะไรๆใหม่ๆ เสมอ ปีที่ผ่านมา เมียวพัฒนาเรื่องการวางแผน และไมนด์เซต ในสนามทำให้เกมส์โดยรวมดีขึ้น อีกทั้งเรื่องการพัฒนาร่างกายที่ต้องทาอย่างต่อเนื่องเมียวต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่า เมื่อเราทำได้แล้ว เราสามารถทำได้อีกค่ะ”

โปรจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการกักตัว และได้วิดีโอคอลมาร่วมพูดคุยในงานด้วย กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ดีสำหรับตัวเอง สิ่งที่ทำมาดีแล้ว ก็อยากจะให้ดีขึ้นอีกต่อไป แต่ยังมีอะไรที่เราต้องโฟกัสอยู่ ไม่ใช่ว่าทุกอย่างที่ทำอยู่จะดีเสมอไป อีกทั้งปีที่ผ่านมาเป็นปีแรกที่ตัวเองเทิร์นโปร แต่ก็มีเรื่องของโควิด-19 ที่ยังไม่ดีขึ้น ทั้งการเดินทางที่เข้มงวดมากขึ้น ทำให้การพักผ่อนน้อยลง และเป็นอะไรที่สำคัญมากสำหรับตัวเอง และร่างกาย เพราะจะต้องเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศในทุกๆ สัปดาห์ การพักผ่อนน้อยก็มีผลเวลาลงแข่ง

โปรจีน กล่าวอีกว่า เป้าหมายในปีนี้ยังไม่มีเป้าหมายที่สำคัญในเรื่องของแรงกิ้ง แต่อยู่ที่สเต็ปบายสเต็ปมากกว่า ที่จะค่อยๆ เก็บประสบการณ์ อย่างปีที่ผ่านมาตัวเองพยายามเก็บแรงกิ้ง เพื่อที่จะได้เข้าไปเล่นแอลพีจีเอ ทัวร์ ซึ่งในปีนี้จะเป็นปีแรกที่ตัวเอง ได้ลงเล่นในแอลพีจีเอ ทัวร์ ก็จะแตกต่างกับที่ต้องมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ

“ส่วนตัวการที่เราเป็นตัวของตัวเองทั้งข้างนอก และในสนามเป็นอะไรที่ดีที่สุด เพราะจีนก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ในสนามไม่เป็นตัวของตัวเองเลย และสิ่งที่มันแสดงออกมาทั้งในเรื่องของบุคลิกภาพ รอยยิ้ม ที่เราเคยมี ผลงานมันแตกต่างออกไป อยากให้ทุกคนพยายามเป็นตัวของตัวเอง และการประสบความสำเร็จก็จะมาเอง และอย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร และโฟกัสกับตัวเองให้ดีที่สุด” โปรจีน กล่าวปิดท้าย

โปรจีนกล่าวในตอนท้ายว่า พยายามก้าวไปทีละขั้น เราไปยุโรป หาประสบการณ์ ซึ่งออกมาดีกว่าที่คิดว่า การที่ได้ทัวร์การ์ดของ แอลพีจีเอ ทัวร์ ทัวร์อันดับ 1 ของโลก เราอยากไปพิสูจน์ตัวเองว่า จะทำได้ดีแค่ไหน สำหรับตอนนี้มองว่า เป็นจุดเริ่มต้น การเล่นที่ยุโรปมาตลอดปี ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ได้เห็นจุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเอง ทาให้เราวางแนวทางการพัฒนาได้ถูกต้อง เกมมีคุณภาพมากขึ้น ร่างกาย และทัศนคติดีขึ้น ก็จะมุ่งมั่นทำให้ดีกว่าเดิมแน่นอน ต้องยากกว่าปีที่ผ่านมาแน่ แต่คือความท้าทาย ทำให้สนุกสนานตื่นเต้นขึ้นกว่าเดิม