เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ห้องอโนมาแกรนด์ ชั้น 3 โรงแรมอโนมาแกรนด์ กรุงเทพฯ ถนนราชดำริ สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ได้จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 โดยมีคณะกรรมการสมาคมฯ จำนวน 17 คน และผู้แทนสโมสรสมาชิกสามัญ เข้าร่วมการประชุมทั้งหมด 55 สโมสร จากจำนวนทั้งสิ้น 63 สโมสร รวมผู้เข้าร่วมประชุม ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง 72 คน
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ถ้าจะเป็นที่หนึ่ง ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน การมาประชุมร่วมกันอย่างพร้อมเพรียงในวันนี้ แสดงถึงความสมัครสมานสามัคคีของผู้ที่มีใจรักในกีฬาแบดมินตัน และเป็นการแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นของพวกเราที่จะร่วมกันพัฒนาวงการกีฬาแบดมินตันของเราให้เจริญรุดหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง สมดังคำขวัญของคณะกรรมการโอลิมปิกสากลที่ว่า “เร็วขึ้น สูงขึ้น แข็งแรงขึ้น (Faster Higher Stronger)” และขอขอบพระคุณสำหรับความร่วมแรงร่วมใจกันของคณะที่ปรึกษา คณะกรรมการสมาคมฯ สโมสรสมาชิก ผู้ฝึกสอน นักกีฬา เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายของสมาคมฯ และที่สำคัญคือ ผู้สนับสนุนหรือสปอนเซอร์ อาทิ TOYOTA ,YONEX และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจและกำลังปัญญา เพื่อกีฬาแบดมินตันของประเทศไทย”
“ขอชื่นชมสำหรับผลงานของนักกีฬาแบดมินตันทุกคนที่ร่วมกันสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย โดยเฉพาะ ประเภทคู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ประเภทคู่ผสมทัวร์นาเมนต์เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 สามรายการติดต่อกันในเวลาสามสัปดาห์ รวมถึง “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คว้ารองแชมป์แบดมินตัน “โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 อีกทั้ง หญิงเดี่ยวของไทยคือ “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างเกียรติประวัติให้กับตนเองที่คว้ารองแชมป์ได้เป็นครั้งแรก ในรายการ ออลอิงแลนด์ และประเภทหญิงเดี่ยว “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ คว้าแชมป์ แบดมินตัน “ออร์เลอองส์ มาสเตอร์ส 2021 ขณะที่ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ได้รองแชมป์แบดมินตัน โยเน็กซ์ สวิส โอเพ่น 2021 อีกด้วย”
“ความภูมิใจอีกประการหนึ่งคือ ปัจจุบันกีฬาแบดมินตันของไทยได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ในมหาอำนาจของวงการแบดมินตันโลก มีนักกีฬาประสบความสำเร็จมากขึ้น การจัดการแข่งขัน โดยเฉพาะในระดับนานาชาติก็ได้รับการยอมรับมากขึ้นถึงมากที่สุด สิ่งที่พวกเราใฝ่ฝัน ในมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ นั่นคือ โตเกียว 2020 โอลิมปิกเกมส์ ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 23 ก.ค.8 ส.ค.นี้ จะเป็นการเปิดฉากกีฬาโอลิมปิกอย่างเป็นทางการ ปรากฏต่อสายตาชาวโลก ซึ่งเป็นวันที่พวกเราเฝ้ารอให้นักกีฬาแบดมินตันของเราไปหยิบเหรียญโอลิมปิกกลับมาประเทศไทยให้คนไทยได้ชื่นชมกัน”
“สมาคมฯ จะจัดทำโครงการ “Future Badminton Thailand 2021” เพื่อช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้การพัฒนานักกีฬาตั้งแต่ระดับรากหญ้ามีความเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ สร้างขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬา โดยเฉพาะสโมสรที่สร้างนักกีฬาสู่ความเป็นเลิศทั้งประเทศ โดยได้จัดทำโครงการเงินสนับสนุนนักกีฬาเยาวชนปี 2564 มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นโครงการนำร่อง หากได้รับความสนใจและผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก ก็สามารถเพิ่มเงินสนับสนุนให้สูงขึ้นได้”
สำหรับโครงการ “Future Badminton Thailand 2021 จะเก็บคะแนนสะสมตลอดทั้งปี (ตามตารางคะแนนสะสมของแต่ละ Level ไม่ใช่คะแนน BAT Ranking) สำหรับรายการแข่งขันที่อยู่ภายใต้การรับรองของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นับจากวันที่ 1 เม.ย. – 31 ธ.ค.64 โดยจะใช้รายการที่นักกีฬาทำผลงานได้ดีที่สุด จำนวน 10 รายการ ตัดสินหาผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภท ในทุกรุ่นอายุ นักกีฬาสามารถลงทำการแข่งขันข้ามรุ่นอายุตัวเองได้ แต่จะได้รับเงินรางวัลเพียงรุ่นเดียว โดยจะได้รางวัลในรุ่นที่ได้รางวัลมากกว่า จะเก็บคะแนนโดยใช้หลักว่า นักกีฬาลงทำการแข่งขันในรุ่นไหน ประเภทไหน เก็บคะแนนในรุ่นนั้น ประเภทนั้น สำหรับนักกีฬาประเภทคู่ จะเก็บคะแนนเป็นคู่ตามระบบของ BWF World Ranking นักกีฬาที่มีคะแนนสะสมสูงสุดในแต่ละประเภท ในแต่ละรุ่นอายุ จะได้รับเงินรางวัลตามตารางเงินรางวัลที่กำหนด โดยต้องลงทำการแข่งขันและมีคะแนนสะสม อย่างน้อย 5 รายการ ในประเภทและรุ่นอายุที่ได้รับรางวัล สมาคมฯ จะมอบเงินสนับสนุนให้กับสโมสรต้นสังกัด เท่ากับจำนวนเงินรวมที่นักกีฬาในสังกัด ได้รับจากทุกประเภทการแข่งขัน และทุกรุ่นอายุ หากนักกีฬามีการเปลี่ยนแปลงสโมสรสังกัด ระหว่าง 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2564 เงินสนับสนุนที่จะมอบให้กับสโมสร จะถูกแบ่งตามระยะเวลาที่นักกีฬานั้น ๆ สังกัดอยู่ในแต่ละสโมสร โดยยึดถือเอาวันที่สมาคมฯ อนุมัติให้เปลี่ยนแปลงสโมสรสังกัด เป็นเกณฑ์ในการคำนวณ เพื่อแบ่งเงินสนับสนุนให้กับแต่ละสโมสร
ส่วนอีกเรื่องที่น่ายินดีคือขอแสดงความยินดีกับ นายพรรคพล ธีรรัตน์สกุล และนายพณิชพล ธัรรัตน์สกุล ได้รับคัดเลือกเข้ารับรางวัลเชิดชูเกียรติเยาวชนต้นแบบ Thailand Master Youth 3 สาขา “กีฬาและนันทนาการ” ในงานประกาศเกียรติยศเชิดชูเกียรติเยาวชนต้นแบบแห่งปีด้วย.