เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คือนักแบดมินตันคู่ผสมไทยแท้ และเป็นคู่มือ 1 ของโลกในปัจจุบัน
เป็นคู่ผสมคู่แรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ทำได้
ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ถือเป็น “ยุคทอง” ของ “บาส-ปอป้อ” อย่างแท้จริง
ปี ค.ศ. 2021 ปีเดียว ทั้งคู่จับมือโกยแชมป์ถึง 8 รายการ
รวมถึงรายการใหญ่ที่สุดอย่าง “ชิงแชมป์โลก”
แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย
ทั้งคู่ต้องผ่านอุปสรรค และใช้ความอดทนชนิดที่เราไม่สามารถจินตนาการได้
แต่ “บาส-ป้อ” ก็ยังไม่เคยหยุดฝัน และหยุดพยายาม
พวกเขายังเดินหน้าสู้ต่อไป ด้วยพลัง และความหวังที่จะทำให้ดีกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อย ๆ
เพื่อรอยยิ้มของคนไทยทุกคน
จุดเริ่มต้น
“บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ ในวัย 25 ปี เริ่มต้นเล่นแบดมินตันตอนอายุแค่ 7 ขวบ ด้วยเหตุผลเพราะ “ไม่ชอบเรียน”
“บาสเริ่มเล่นแบดตั้งแต่ 7 ขวบครับ เป็นคนชอบเล่นกีฬา ไม่ค่อยชอบเรียนเท่าไหร่ ก็เลยไปทางกีฬาเลยก็แล้วกัน”
“กีฬาอะไรก็ชอบหมด ตอนนั้นเล่นฟุตบอลก็กลัวบาดเจ็บ เล่นเทนนิสก็แดดแรง ก็เลยเอาคล้าย ๆ เทนนิสก็แล้วกัน แล้วก็มาจบที่แบดมินตันครับ”
ส่วน “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย วัย 30 ปี บอกว่า จุดเริ่มต้นคือ “ครอบครัว”
“คุณพ่อกับคุณแม่เป็นนักกีฬาให้ทางมหาวิทยาลัยมาก่อน ชอบเล่นแบดกันทั้งคู่ ก็เลยได้คลุกคลีกับแบดมินตันตั้งแต่เด็กค่ะ”
บรรทัดนี้ เผื่อใครยังไม่ทราบ อย่างที่ทรัพย์สิรีบอก นั่นคือทั้งคุณพ่อและคุณแม่ของเธอเป็นนักกีฬาแบดมินตันมาก่อน และดีกรีถือว่าไม่ธรรมดา
ล่าสุด คุณพ่อ “ประพฤทธิ์ แต้รัตนชัย” และ คุณแม่ “สุนีย์ แต้รัตนชัย” จับคู่ลงแข่งขันกีฬาอาวุโส “ไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์” ครั้งที่ 2 ที่ จ.สงขลา เมื่อเดือน ม.ค. 2565
ทั้งคู่ลงแข่งแบดมินตัน ประเภทคู่ผสม รุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไป และสามารถคว้าแชมป์ประเทศไทยมาครองได้สำเร็จ
เรียกได้ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริง ๆ
การจับคู่
ทั้งคู่เริ่มต้นเล่นในประเภทเดี่ยวเหมือนกัน แต่อะไรทำให้ได้มาจับคู่กัน และทำไมถึงประสบความสำเร็จ นี่ต่างหากคือเรื่องที่น่าสนใจ
เดชาพล กล่าวต่อว่า “เป็นมุมมองของทางโค้ช (โค้ชโอม เทศนา พันธ์วิศวาส หัวหน้าผู้ฝึกสอนของโครงการ เอสซีจี แบดมินตัน อคาเดมี) แนะนำว่าอาจจะเป็นเพราะรูปร่างหรือว่าวิธีการตีของเรามันเหมาะกับประเภทคู่มากกว่าเดี่ยว”
“มาเจอพี่ป้อ ลองขอโค้ชว่า ขอลองตีคู่ผสมได้ไหม ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ตีคู่ผสม พี่ป้อก็ว่าง ก็เลยอะ ลองดู โดยที่
ไม่ต้องมีความกดดัน ไม่ต้องซีเรียสมาก ก็เลยตีสนุก ๆ ครับ”
ส่วนเคล็ดลับความสำเร็จนั้น “บาส” บอกว่า อาจเป็นเพราะ “ด้วยความที่เราไม่ได้กดดัน ไม่ได้เครียด ผลงานมันก็เลยออกมาดี”
ด้าน ทรัพย์สิรี ซึ่งก่อนมาจับคู่กับเดชาพลนั้น เธอจับคู่กับผู้หญิง เล่นประเภทหญิงคู่มาตลอด ทำให้ต้องปรับตัวพอสมควร เพราะเกมแตกต่างกันมาก
“เกมของหญิงคู่กับคู่ผสมมันจะต่างกันค่ะ ผู้หญิงจะเป็นแนวทนแล้วก็นาน มันจะโต้กันไปโต้กันมา แรลลี่เยอะค่ะ”
“แต่พอมาเป็นเกมผู้ชายปั๊บ มันจะมีทั้งความเร็ว แล้วก็ความแรงเข้ามาด้วย เลยรู้สึกว่ามันสนุกกว่าด้วย”
คู่แข่งตัวฉกาจ
บนเส้นทางของความสำเร็จ แน่นอนว่าต้องมีอุปสรรคขวากหนาม และต้องผ่านคู่ต่อสู้ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เมื่อถามว่าคู่ต่อสู้คู่ไหนที่ถือเป็นคู่ที่ยากที่สุด “บาส” บอกว่า
“ถ้าเป็นท็อป 10 ถือว่ายากหมดเลยครับ เพราะว่าแต่ละคู่คือมันสามารถผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะได้หมด อยู่ที่วันนั้นใครสามารถโชว์ศักยภาพได้ดีกว่ากัน และคุมเกมได้ดีกว่ากันครับ”
ส่วนคู่รักคู่แค้นจากญี่ปุ่น นั่นคือ ยูโตะ วาตานาเบะ กับ อริซะ ฮิกาชิโนะ ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยแพ้เขามา 4 เกมติด แต่ปีที่แล้วกลับมาเอาชนะเขาได้ 3 เกมรวด รวมถึงในรายการชิงแชมป์โลกรอบชิงชนะเลิศด้วย
ปอป้อ บอกว่า เคล็ดลับคือ “อาจเพราะด้วยเราไม่ค่อยได้เจอเขาเกือบ 2 ปี เพราะด้วยความเป็นมือ 3 กับมือ 4 ก่อนหน้านี้ ทำให้อยู่คนละสายกัน ถ้าจะเจอกันก็ต้องเจอในรอบชิงชนะเลิศอย่างเดียว”
“ทางโค้ชและทางทีมงาน ก็ได้ลองมาหมดแล้วค่ะ ลองวิธีนั้นวิธีนี้ จนมาเจอว่าเราจะทำยังไงถึงจะได้ เรียกว่าแก้มาเพื่อเจอคู่นี้โดยเฉพาะ”
ส่วน เดชาพล พูดถึงคู่นี้ว่า “สไตล์เรากับญี่ปุ่นคล้าย ๆ กัน อาจจะเป็นด้านความเร็ว ความคล่องตัวที่เวลาตีกันก็เลยใกล้เคียงกันครับ”
สู่จุดสูงสุด
สำหรับนักกีฬาทุกคน แน่นอนว่าสิ่งที่ใฝ่ฝันที่สุดก็คือการไปให้ถึงจุดสูงสุดของโลก ซึ่ง “บาส-ปอป้อ” ก็ไปถึงจุดนั้นมาแล้ว เมื่อสร้างประวัติศาสตร์ เป็นคู่ผสมคู่แรกของไทยที่คว้าแชมป์โลกมาครองได้ เมื่อปี ค.ศ. 2021
กว่าจะไปถึงจุดนั้นยากเย็นแค่ไหน เดชาพล เล่าให้ฟังว่า “สิ่งที่ยากที่สุดน่าจะเป็นการต่อสู้กับตัวเอง ความล้าของตัวเอง และสภาพร่างกายครับ เพราะว่ามันแข่งมาเป็นแมตช์ที่ 9 ไม่เคยแข่งรายการไหน ที่มันนานขนาดนี้มาก่อนเหมือนกัน”
ส่วน ปอป้อ เสริมว่า “ไปแข่งยาว 3 เดือนค่ะ ใน 3 เดือนนี้ เป็นรายการที่ 9 นอกจากต้องต่อสู้กับคู่แข่งแล้ว ยังต้องต่อสู้กับความล้าของตัวเองด้วย”
นี่คือสิ่งที่เขาเรียกกันว่าชนะตัวเองได้ก็ชนะทุกคนได้อย่างแท้จริง
เป้าหมายต่อไป
ปี 2564 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีทอง และอาจเรียกได้ว่าถึงจุดสูงสุด
แล้ว ในก้าวต่อไป “บาส-ป้อ” มองถึงจุดไหน และยังมีอะไรที่เป็นเป้าหมายหลักอีกหรือไม่
“ส่วนตัวแล้วไม่ได้กดดันตัวเองอะไรมาก ปีนี้รายการหลักก็จะมีออล อิงแลนด์ มีเอเชี่ยนเกมส์ ที่เราหวังเอาไว้ว่าจะคว้าเหรียญให้ได้” เดชาพล เผย
“ส่วนแมตช์อื่นเราก็พยายามทำผลงานให้ดีที่สุด เอาสิ่งที่ซ้อมมาใช้ให้ดีที่สุดเท่านั้นก็พอครับ ไม่ได้กดดันอะไร”
ขณะที่ ทรัพย์สิรี บอกว่า “เป้าหมายคือพยายามรักษามาตรฐานตัวเองค่ะ แล้วก็แก้ไขจุดบกพร่องให้มันดีขึ้น ส่วนจุดไหนที่ดีอยู่แล้วก็ทำให้มันดีต่อไป พัฒนาตัวเองต่อไป”
“เพราะว่าถึงวันนี้ เราจะอยู่มือ 1 เราจะเป็นแชมป์โลก แต่อนาคตเราก็ไม่รู้ค่ะ”
ถือเป็นทัศนคติที่สุดยอด และอาจเป็นเหตุผลหลัก ที่ทำให้ทั้งคู่ไม่เคยหยุดพัฒนา จนก้าวไปสร้างผลงานระดับโลกให้คนไทยได้ชื่นใจอยู่เรื่อย ๆ
และใช่ครับ อย่างที่ทรัพย์สิรีบอก อนาคตคือสิ่งที่ไม่แน่นอน อนาคตจะเป็นยังไง เราไม่มีทางรู้ได้
แต่ที่พวกเรารู้ และอยากให้ “บาส-ป้อ” รู้ก็คือ พวกเรารู้สึกภาคภูมิใจในตัวพวกคุณทั้งคู่มาก และอยากบอกว่า “ขอบคุณ” ที่ทำให้คนทั้งประเทศได้มีรอยยิ้มในช่วงเวลาแบบนี้
พวกเราจะติดตาม และส่งกำลังใจให้พวกคุณประสบความสำเร็จ และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศเราต่อไป เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าคนไทยไม่เป็นรองใครในโลก.
ประวัติ
ชื่อ : เดชาพล พัววรานุเคราะห์
ชื่อเล่น : บาส
เกิด : 20 พฤษภาคม 2540 ที่จังหวัดชลบุรี
อายุ : 25 ปี
สัญชาติ : ไทย
ส่วนสูง : 169 เซนติเมตร
มือข้างถนัด : มือขวา
ชื่อ : ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย
ชื่อเล่น : ปอป้อ
เกิด : 18 เมษายน 2535 ที่จังหวัดอุดรธานี
อายุ : 30 ปี
สัญชาติ : ไทย
ส่วนสูง : 169 เซนติเมตร
มือข้างถนัด : มือขวา
ผลงาน (โดยสังเขป)
แชมป์ โยเน็กซ์ สวิส โอเพ่น 2017
เหรียญทอง ซีเกมส์ 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย
แชมป์ สิงคโปร์ โอเพ่น 2019
แชมป์ โคเรีย โอเพ่น 2019
แชมป์ มาเก๊า โอเพ่น 2019
แชมป์ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2021
แชมป์ โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2021
แชมป์ เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020 (2021)
แชมป์ ไฮโล โอเพ่น ที่เยอรมนี 2021
แชมป์ ไดฮัตสึ อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2021
แชมป์ อินโดนีเซีย โอเพ่น 2021
แชมป์ เอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2021
แชมป์ บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2021