กทม.เตรียมความพร้อมศูนย์พักคอย พื้นที่เขตกรุงเทพเหนือ เพื่อส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 – ผู้จัดการออนไลน์



รองผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร งพื้นที่ติดตามความเรียบร้อยศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ 3 จุด ซึ่งผู้ป่วยจะใช้เวลาอยู่ในศูนย์ฯ ไม่เกิน 3 วัน และจะมีระบบติดตามประเมินอาการของผู้ป่วยทุกวัน

วันนี้(6 ก.ค.) นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามความเรียบร้อยศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation) ในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ 3 จุด ได้แก่ ศูนย์กีฬารามอินทรา ซอยรามอินทรา 5 เขตบางเขน ศูนย์สร้างสุขทุกวัย เขตจตุจักร และศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ เขตจตุจักร โดยมี พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายสมศักดิ์ ชาติสุขศิริเดช ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตกลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่

สำหรับศูนย์กีฬารามอินทรา ซอยรามอินทรา 5 เขตบางเขน จะใช้พื้นที่บริเวณโรงยิมแบดมินตัน สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 150 เตียง ภายในอาคารมีการแบ่งแยกห้องน้ำ และห้องอาบน้ำสำหรับชาย-หญิง มีอุปกรณ์เครื่องนอน พร้อมมุ้งและผ้าห่ม ในส่วนของศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ ถนนเทศบาลสงเคราะห์ เขตจตุจักร สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 120 เตียง และศูนย์สร้างสุขทุกวัย บริเวณโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชน์(ราชทัณฑ์อุปถัมภ์) เขตจตุจักร ใช้พื้นที่โถงสนามแบดมินตัน รองรับผู้ป่วยได้ 120 เตียง ทั้งสองศูนย์จะแยกห้องน้ำชาย-หญิงชัดเจน

ในวันเดียวกันนี้ นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่สำรวจความพร้อมบริเวณศาลาวัดจักรวรรดิราชาวาส เขตสัมพันธวงศ์ เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ ในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง โดยมี นางสาวอาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกลุ่มเขตกรุงเทพกลาง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตสัมพันธวงศ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมสำรวจและพิจารณาถึงความเหมาะสมในด้านต่างๆ ทั้งลักษณะทางกายภาพ อาคารสถานที่ ห้องน้ำ สภาพแวดล้อมโดยรอบเหมาะสมตามหลักสุขาภิบาล และมาตรการป้องกันการติดเชื้อตามที่ทางราชการกำหนด รวมถึงเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ตลอดจนปรับปรุงพื้นที่ภายในเพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยในเบื้องต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในส่วนของการประเมินความพร้อมสถานที่ที่จะใช้จัดตั้งเป็นศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation) นั้น ต้องเป็นสถานที่ที่กว้างขวาง สามารถปรับพื้นที่เพื่อรองรับผู้ป่วยได้ มีห้องน้ำเพียงพอ และมีระบบกำจัดน้ำเสีย นอกจากนี้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากชุมชนและภาคเอกชนในพื้นที่เพื่อร่วมกันดูแลผู้ป่วยด้วย สำหรับแนวทางการรับผู้ป่วยโควิด-19 เข้าสู่ศูนย์พักคอย ศูนย์เอราวัณ กทม.จะประเมินผู้ป่วยเบื้องต้นกรณีไม่สามารถกักตัวที่บ้านได้จะนำผู้ป่วยเข้าสู่ศูนย์พักคอย ซึ่งจะใช้เวลาอยู่ในศูนย์ฯ ไม่เกิน 3 วัน และจะมีระบบติดตามประเมินอาการของผู้ป่วยทุกวัน รวมทั้งจะมีการแจกยาฟ้าทะลายโจรหรือยา Favipiravir ตามที่แพทย์เห็นสมควรเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลในเบื้องต้น แต่หากผู้ป่วยมีอาการมากขึ้นศูนย์เอราวัณจะนำส่งโรงพยาบาลทันที