โดย “ดร.ก้องศักด ยอดมณี” ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยว่า การแข่งขัน “เอเชียนยูธพาราเกมส์” ครั้งที่ 4 ณ ราชอาณาจักรบาห์เรน ประเทศไทยส่งนักกีฬาคนพิการเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 176 คน แบ่งเป็นนักกีฬาจำนวน 107 คน ผู้ฝึกสอนและผู้ช่วยเหลือจำนวน 69 คน และจากการติดตามและวิเคราะห์ร่วมกันของฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ร่วมกับ 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ , สมาคมกีฬาพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย , สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย
สำหรับ เป้าหมายของประเทศไทย คือติดอันดับ 1 ใน 5 ของเอเชีย โดยผลงานการแข่งขันครั้งที่ผ่านมา ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยสามารถทำผลงานคว้าเหรียญรางวัลมาได้ 19 เหรียญทอง 15 เหรียญเงิน 19 เหรียญทองแดง รวม 53 เหรียญ จบอันดับที่ 5 โดยในครั้งนี้ กกท. มีความคาดหวังผลงานของนักกีฬาคนพิการซึ่งคาดว่าจะทำผลงานไม่ต่ำกว่าครั้งที่แล้วอย่างแน่นอน ซึ่งวางเป้าหมายไว้ตามชนิดกีฬา ประกอบด้วย บอคเซีย กรีฑา ลู่-ลาน วีลแชร์เรสซิ่ง เทเบิลเทนนิส ว่ายน้ำ แบดมินตัน และเทควันโด
ทั้งนี้ สำหรับการเตรียมทัพนักกีฬาคนพิการในการแข่งขันครั้งนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทยได้นำวิทยาศาสตร์การกีฬามาประยุกต์ ในการฝึกซ้อมกีฬาและป้องกันการบาดเจ็บในการเล่นกีฬาเพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพร่างกายของนักกีฬาให้มีขีดความสามารถสูงขึ้น ด้วยเทคนิคต่างๆ ที่จะนำไปสู่การฝึกทักษะได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น เมื่อศักยภาพดีก็ทำให้นักกีฬาโชว์ทักษะด้านการกีฬาได้เต็มที่ ทั้งนี้การกีฬาแห่งประเทศไทยยังได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนานักกีฬาคนพิการและติดตามประเมินผลทั้งก่อนการแข่งขันและหลังการแข่งขันเพื่อให้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพื่อเป็นการต่อยอดศักยภาพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยไปสู่ความสำเร็จ ในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ต่อไป