ควันหลงของแฟนๆแบดมินตันที่ได้ชมการถ่ายทอดสดแบดมินตัน อูเบอร์ คัพ 2020 ในรอบรองชนะเลิศ ระหว่างทีมไทย พบกับ จีน ทีมแชมป์ 14 สมัย กับเหตุการณ์ดราม่าที่เกิดขึ้นหลังจากเริ่มการแข่งขันไปเพียง 2 นาที เมื่อ “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ที่บินตามไปประเทศเดนมาร์ก สมทบเพื่อนร่วมทีม ได้ลงสนามแข่งขันเป็นเกมแรกให้กับทีมชาติไทย
คู่แรกในประเภทเดี่ยวมือหนึ่ง พบกับเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกโตเกียวเกมส์ เฉิน ยู่เฟย มืออันดับ 2 ของโลกจากประเทศจีน ปรากฏว่า รัชนก ได้ถอนตัวออกจากการแข่งขัน ในช่วงต้นเกม หลังจากถูก เฉิน ยู่เฟย ออกนำ 5-2 ด้วยสาเหตุเรื่องอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ ทำให้ทีมไทยต้องตามหลัง ทีมชาติจีน 0-1 คู่
และเมื่อบทสรุปสุดท้ายทีมสาวไทยต้องปราชัยให้กับสาวจีนไปขาดลอย 0-3 คู่ จุดนี้ ทำให้มีดราม่าในโซเชี่ยลจากแฟนๆกีฬาขึ้นมาทันที ทำนองว่า เจ็บแล้วฝืนลงทำไม ถ้าร่างกายไม่พร้อมแล้วไปทำไม
เนื่องจาก “เมย์” ลงซ้อมแบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากนักในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนแข่งขัน หลังจากกลับมาจากแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 เพราะเธอมาต้องสูญเสียคุณแม่ คำผัน สุวรรณศาลา ยิ่งทำให้กำลังใจของเธอนั้นลดลงไปอย่างหนัก แต่เธอก็ได้กำลังใจจากแฟนๆกีฬาชาวไทยทั้งประเทศให้ก้าวข้ามจุดนั้นไปให้ได้ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเอาเสียเลย
ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ตอนแรกเชื่อว่าแฟนๆกีฬาชาวไทยคงคิดว่าเราจะได้เห็น รัชนก ลงช่วยทีมในประเภทเดี่ยวมือหนึ่งแต่ทางทีมโค้ชก็ได้ร่วมกันวางแผนก็ยังคงไม่ได้ส่งชื่อ รัชนก ลงสนามในแมทช์ทรหดที่เฉือนชนะทีมอินโดนีเซียมาหวุดหวิด 3-2 คู่ แต่อย่างใด
เราต้องยอมรับว่าทีมโค้ชทีมชาติไทยชุดนี้ที่มีทั้ง “โค้ชส้ม” น.ต.หญิง สราลีย์ ทุ่งทองคำ, “โค้ชโอม” เทศนา พันธ์วิศวาส, “โค้ชเป้” ภัททพล เงินศรีสุข, “โค้ชไอซ์” สิทธิชัย วิบูลย์สิน, “โค้ชอาท” พงษ์พณัฐ กฤตานุกูลย์ “โค้ชท็อป” ภควัฒน์ วิไลลักษณ์ หลายๆคนผ่านเกมระดับโลกมาอย่างโชกโชนรวมถึงในรายการ โทมัส-อูเบอร์คัพนี้ด้วย
รอบรองชนะเลิศ อูเบอร์ คัพ 2020 ระหว่างทีมไทย พบกับ จีน หากใครที่ติดตามชมแบดมินตันระดับโลกมาอย่างต่อเนื่องก็คงจะรู้กันดีว่าในประเภทเดี่ยวมือหนึ่ง เฉิน ยู่เฟยเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกโตเกียวเกมส์ อยู่ในช่วงที่ฟอร์มโดดเด่นสุดๆหาใครหยุดลำบากมากแม้กระทั่ง ไถ้ จื่ออิง จากไต้หวัน ที่ว่าแน่ๆยังพลาดท่ามาหลายครั้ง คู่ต่อมาใน
ประเภทคู่มือหนึ่ง เฉิน หยิงเฉิน กับ เจี๋ย ยี่ฟาน เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกโตเกียวเกมส์ ก็มีสถิติที่เหนือกว่า 2 คู่ของไทยทั้ง กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ และคู่ของ “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย อยู่เป็นอย่างมาก
เชื่อว่าการที่ทีมโค้ชตัดสินใจส่งชื่อ รัชนก ลงสนาม จริงๆ ก็คือเรื่องของแทคติกของทีม ส่วนอาการบาดเจ็บนั้นจะเจ็บหรือไม่ ก็ให้เจ้าตัวออกมาพูดเองดีกว่า เพราะหลังจากนี้ ต้องมีทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ต้องไปเก็บแต้มอีกที่ยุโรป เพราะหากไม่มี “เมย์” ทีมชาติไทยจะต้องขยับนักกีฬาเดี่ยวมือสองอย่างหมิว พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มาเล่นกับ เฉิน ยู่เฟย ที่ชั่วโมงนี้ใครก็หยุดเธอไม่อยู่หรอก
ซึ่งผลงานที่ผ่านมาของทั้งคู่ หมิวนั้นเป็นรองไม่ต่างจากเมย์ รัชนก เลย โดยพบกัน 8 ครั้ง หมิว พรปวีณ์ เอาชนะไปเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และ เดี่ยวมือสาม อย่างครีม บุศนันทน์ ขึ้นมาชนกับ มือหนึ่ง และ มือสองของจีน เหอ บิงเจียว ตามลำดับ คือโอกาสพลิกมันน้อยกว่า
หากไปดูการพบกัน ของ เมย์ รัชนก กับ เฉิน ยู่เฟย เรียกได้ว่า “งูเหลือมกับเชือกกล้วย” เลยทีเดียว จากการพบกันทั้งหมด 14 ครั้ง เมย์ รัชนก เอาชนะได้แค่ 2 ครั้งเอง และ 5 ครั้งล่าสุดที่พบกัน เมย์ รัชนก ก็โดนเฉิน ยู่เฟย เก็บชัยชนะไปได้ทั้งหมด
ทางด้านทีมเองรู้อยู่แล้วว่า เมย์ ไม่พร้อมตั้งแต่แรก ทั้งสภาพร่างกาย และสภาพจิตใจก่อนเดินทางมาที่นี่ โดยก่อนหน้านี้ เมย์ รัชนก จะไม่เข้าร่วมการแข่งขันในประเภททีมทั้ง สุธีรมาน คัพ และ โธมัส-อูเบอร์คัพ ก็ได้ ด้วยสภาพร่างกายที่บอกไปนั้น แต่เธอเธอเลือกที่จะมาแข่งขันเพื่อช่วยทีมใน อูเบอร์ คัพ
แต่สิ่งให้เธอที่มีในทีมไทยชุดนี้ได้ คือ อันดับโลกของเธอ ที่สามารถทำให้ทีมชาติไทย จัดการปรับแทคติกนี้ได้ แม้ท้ายที่สุดแล้ว หญิงคู่มือ 1 ของไทย ที่ปรับแทคติกเปลี่ยนคู่ จาก กิ๊ฟ จงกลพรรณ กับ วิว รวินดา เปลี่ยนมาเป็น วิว รวินดา กับ เอิร์ธ พุธิตา ก็ไม่สามารถต้านคู่เหรียญเงินโอลิมปิกอย่าง เฉิน ยิงเฉิน กับ เจีย ยี่ฟานไปได้ 2 เกมรวด
มากันที่ มือสองของโลกของทีมชาติจีน กับ “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือ 10 ของโลก จะแพ้ เหอ บิงเจียว มือ 9 ของโลก จนทำให้ทีมชาติจีน ชนะ 3-0 คู่ ก่อนหน้าที่พบกันในออล อิงแลนด์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นหมิว พรปวีณ์ เอาชนะไปได้ 2-1 เกม ซึ่งทางทีมมองว่า หมิว น่าจะต่อกรกับ เหอ บิงเจียว ได้อย่างสนุกและเป็นแต้มความหวังของเรา แต่สุดท้ายต้องยอมรับว่า เหอ บิงเจียว ก็วางแผนมาดีเช่นกัน เพื่อที่จะเอาชนะ หมิว ให้ได้ แล้วก็ทำได้ตามที่วางไว้ด้วยชัยชนะ 2-0 เกม คะแนน 21-15 และ 21-16
หากเทียบผลงานระกว่างไทย กับ จีน ในอูเบอร์ คัพ 2018 ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ที่ทีมสาวไทย เอาชนะไปได้ 3-2 คู่ โดยหญิงเดี่ยวคู่แรก เมย์ รัชนก อินทนนท์ เอาชนะ เฉิน ยู่เฟยไปได้ 2-1 เกม แมตช์นี้นั้น เมย์ ได้เปรียบในเรื่องเสียงเชียร์ในสนามอย่างชัดเจนที่ส่งเสียงเชียร์กดดัน จีน อย่างหนัก ทีมไทยออกนำก่อน 1-0 คู่
หญิงคู่มือ 1 “กิ๊ฟ”จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 8 ของโลก พบกับ เฉิน หยิงเฉิน กับ เจี๋ย ยี่ฟาน คู่มืออันดับ 1 ของโลกจากจีน แล้วผลการแข่งขันเป็น เฉิน หยิงเฉิน กับ เจี๋ย ยี่ฟาน มาเปิดเกมบุกได้อย่างเด็ดขาดทำคะแนนเอาชนะไปได้ 2-0 เกม 21-17,22-20 ทีมจีน ทำคะแนนตามตีเสมอ 1-1 คู่
หญิงเดี่ยวมือ 2 “แน็ต” ณิชชาอร จินดาพล มืออันดับ 11 ของโลก พบกับ เกา ฟังเจี๋ย มืออันดับ 32 ของโลกจากจีน ก่อนที่จะเป็นทาง ณิชชาอร ที่สามารถฮึดพลิกสถานการณ์หลังจากที่พลาดท่าพ่ายไปก่อนในเกมแรกเร่งเครื่องทำคะแนนแซงชนะ ไปได้หวุดหวิด 2-1 เกม 19-21, 21-19 ,21-12 ทีมสาวไทยทำคะแนนออกนำ 2-1 คู่
หญิงคู่มือ 2 “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย กับ “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล คู่อันดับ 106 ของโลก พบกับ หวง หย่าเชียง กับ ถัง จินหัว ก่อนที่ หวง หย่าเชียง กับ ถัง จินหัว จะมาเร่งเกมบุกไล่ตบทำคะแนนเฉือนชนะสาวไทยไปได้อีกครั้ง 2-1 เกม 24-26, 21-17,21-18 ใช้เวลาแข่งขันนานถึง 98 นาที ทีมจีน ทำคะแนนตามตีเสมอ 2-2 คู่
หญิงเดี่ยวมือ 3 “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มืออันดับ 22 ของโลก พบกับ หลี่ เสี่ยวเล่ย อดีตแชมป์โลก ที่เพิ่งจะหายจากการรักษาอาการบาดเจ็บมานานกว่า 22 เดือน ไปได้ขาดลอย 2-0 เกม 21-11,21-9 ใช้เวลาแข่งขัน 33 นาที เก็บคะแนนสำคัญให้ทีมสาวไทยเอาชนะ จีน ไปได้หวุดหวิด 3-2 คู่ สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศลุ้นถ้วยอูเบอร์คัพได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 61 ปี
แต่ในปีนี้นั้นมันต่างกันครั้งที่แล้วมากในเรื่องผู้เล่น ทำให้ทีมงานนั้นต้องตัดสินใจที่จะจัดชุดนี้ไป นั่นก็เกิดจากการที่น้องๆ นักกีฬา และทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชได้ทำเต็มที่แล้ว เพื่อให้ผลการแข่งขันออกมาดีที่สุดนั่นเอง
การแข่งขันแบดมินตันประเภททีมหญิง ชิงแชมป์โลก อูเบอร์ คัพ 2020 ทีมสาวไทย “เมย์” รัชนก อินทนนท์, “ครีม”บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ ,”หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ,”จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ ,”วิว”รวินดา ประจงใจ ,”กิ๊ฟ”จงกลพรรณ กิติธรากุล ,”อันนา” นันทน์กาญจน์ เอี่ยมสอาด ,”มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด ,”ปอป้อ”ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย , “เอิร์ธ”พุธิตา ศุภจิรกุล , “เฟม” ศุภิสรา เพรียวสามพราน, “เมย์” ศุภนิดา เกตุทอง ช่วยกันสร้างผลงานฝ่าด่านผ่านเข้ามาคว้าเหรียญทองแดงได้สำเร็จ (คว้าเหรียญทองแดงไปครองเป็นสมัยที่ 2 หลังจากที่เคยทำได้ในปี 2012, ส่วนในปี 2018 คว้ารองแชมป์มาครอง)
ถือว่าเป็นผลงานที่ต้องร่วมกันชื่นชมและยินดีกับนักกีฬา ทีมโค้ช สมาคมกีฬาแบดมินตันฯ รวมถึงคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ที่ไปให้กำลังใจนักกีฬาที่ขอบสนามด้วยตนเอง ให้มีพลังใจในการสานต่อความสำเร็จต่อไปในอนาคต
สู้ต่อไป “ทัพขนไก่ทีมชาติไทย”
ภาพจาก : BadmintonPhoto
Add friend ที่ @Siamsport