“น้องเมย์” ยืนยันไม่สนใจกระแสชุดแข่ง ขอโฟกัสที่ผลงานในสนามเท่านั้น หลังสามารถย้ำแค้นเอาชนะคู่ปรับจากอินโดนีเซีย พร้อมลอยลำเข้ารอบก่อนรองฯ โอลิมปิกได้สำเร็จ
ความเคลื่อนไหวหลังจบการแข่งขัน แบดมินตันโอลิมปิก 2020 “โตเกียวเกมส์” ประจำวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม 2564 ซึ่งในประเภทหญิงเดี่ยว รอบ 16 คนสุดท้าย ปรากฏว่า “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ ไล่ย้ำแค้นเอาชนะ เกรกอเรีย มาริสกา ตุนจุง จากอินโดนีเซีย ไปได้ 2-0 เกม 21-12, 21-19 ผ่านเข้ารอบไปพบกับ ไถ้ ซื่อ หยิง เต็งหนึ่งของรายการจากไต้หวันต่อไป
หลังจบเกม “น้องเมย์ เปิดใจถึงประเด็นเรื่องชุดแข่งขันว่า ตอนแรกใส่ชุดแข่งของแกรนด์สปอร์ตมา แต่หลังจากนั้นทีมงานได้แจ้งให้เปลี่ยนใส่ชุดก่อนลงสนาม ซึ่งโดยส่วนตัวไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้สักเท่าไร เพราะต้องการโฟกัสที่ผลการแข่งขันเท่านั้น โดยชุดแข่งของแกรนต์สปอร์ตเอง ก็ใส่มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
ขณะที่คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า “วันนี้เมย์ลงเล่นในรอบ 16 คนสุดท้าย พบดาวรุ่งจากอินโดนีเซีย รูปเกมการเล่นวันนี้ ถือว่าเมย์เล่นได้สมบูรณ์แบบ หลังจากที่เมื่อวานได้มีโอกาสลงสนามแบบเต็มที่ ทำให้วันนี้มีดึงจังหวะ ความมั่นใจการออกลูกกลับมา มีความมั่นใจกล้าเล่นลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมหน้าเน็ต วันนี้ทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ จนคู่ต่อสู้ทำอะไรไม่ได้ และวันนี้เกมบุกของ “เมย์” ก็หลากหลาย และปิดเกมไปอย่างสวยงาม 2 เกม เข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายไปได้สำเร็จ”
“สำหรับ ครีม-บุศนันทน์ ลงสนามพบกับ อัน เซ ยอง จากเกาหลีใต้ วันนี้ครีมลงเล่นด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจมาก เปิดเกมสู้ได้อย่างสนุกในเกมแรก โดยที่มีหลายจังหวะที่ควรจะเป็นแต้มของครีม แต่ลูกออกไปหลายคะแนน ก่อนที่ในช่วงท้ายของเกมเป็นอัน เซ ยอง ที่เร่งความเร็วมากขึ้น แล้วบีบให้ครีมผิดพลาดเอง พ่ายไปก่อนในเกมแรก ขณะที่ในเกมที่สองต้องยอมรับว่า อัน เซ ยอง สามารถยกระดับการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นฝ่ายชนะไปในเกมที่ 2 ทำให้การแข่งขันโอลิมปิกของ “ครีม” หยุดอยู่ที่รอบ 16 คนสุดท้ายเท่านั้น” คุณหญิงปัทมา กล่าว.