เจาะเส้นทาง “บาส-ปอป้อ” ฝ่าฟันอุปสรรคสู่ความหวังทัพไทย ในศึก “โอลิมปิก” – ไทยรัฐ

วันที่ 5 ก.ค. 64 ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย และ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ นักแบดมินตันคู่ผสมมือ 2 ของโลก ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เวิลด์ทัวร์ 3 รายการติดต่อกันเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยคติหรือแนวทางที่ยึดมั่นอย่าง ความทุ่มเท, แรงกายแรงใจ นั่นทำให้ทั้งคู่ถูกมองว่าจะเป็นความหวังของทัพนักกีฬาไทยในการล่าเหรียญทองมหกรรม “โอลิมปิก 2020” ที่กำลังจะมาถึง ระหว่างวันที่ 23 กรกฎาคม ถึง วันที่ 8 สิงหาคมนี้ ณ ประเทศญี่ปุ่น

ทั้งนี้ทาง ศ.ดร.เจริญ กระบวนรัตน์ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์การกีฬา เอสซีจี แบดมินตัน อคาเดมี ออกมากล่าวถึงว่า “คุณเป็นเหมือนใครไม่ได้เลย คุณเป็นได้แค่ตัวคุณ ต่อให้ซ้อมแบบแชมป์โลก คุณก็ไม่สามารถเป็นแชมป์โลกได้ คุณจะเป็นแชมป์โลกด้วยวิธีการซ้อมที่เหมาะกับตัวคุณ นี่ถือเป็นแนวคิดสำคัญ ที่ทั้งนักกีฬาและทีมงาน ทำงานร่วมกันเพื่อค้นหาธรรมชาติของนักกีฬาให้เจอ เพื่อให้ได้รูปแบบการฝึกซ้อมที่เหมาะสมสำหรับผู้เล่นแต่ละคนให้มากที่สุด จุดสำคัญคือ นักกีฬาจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ในทุกๆ เกมการแข่งขัน เพราะไม่ว่าเราจะเก่งขนาดไหน ถ้าเราหยุดอยู่กับที่ไม่พัฒนาตัวเอง ก็อาจจะโดนคนที่ไม่หยุดพัฒนาแซงได้เหมือนกัน”

ขณะที่ “โค้ชโอม” เทศนา พันธ์วิศวาส หัวหน้าผู้ฝึกสอน เอสซีจีแบดมินตัน อคาเดมี ออกมากล่าวถึงการค้นหาแนวทางของนักกีฬาให้เจอก่อนว่า “ผมว่านักกีฬาทุกคนอยากชนะหมด ถ้าอยากชนะต้องทำอย่างไรบ้าง ที่จริงการแพ้หรือชนะก็เป็นแค่ผลการแข่งขัน แต่สุดที่ท้ายแล้วเราต้องทำอะไรกับผลการแข่งขันนั้น และที่สำคัญคือนักกีฬาต้องรู้ว่าเขาแพ้หรือชนะเพราะอะไร”

ด้าน “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย และ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ ร่วมกันกล่าวว่า “เราเตรียมแผนการเล่นที่จะเจอกับคู่แข่ง ปรึกษากับโค้ชก่อนลงแข่ง พอเราเล่นได้เราก็มั่นใจว่าจะชนะ ทุกอย่างที่เป็นอย่างทุกวันนี้ มันไม่ได้สำเร็จด้วยตัวคนเดียว เรามีคู่ขา, มีทีมงาน, อาจารย์เจริญ, โค้ชโอม รวมถึงคนอื่นๆ ตลอดจน เอสซีจี ที่สนับสนุนเรามาตลอดกว่า 10 ปี

ส่วน สุนีย์ แต้รัตนชัย ออกมาพูดถึงลูกสาวอย่าง “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ออกมากล่าวว่า “จริงๆ แล้วตั้งแต่เด็กๆ เขาจะตีโดนบ้าง ไม่โดนบ้างก็จริง แต่จะวิ่งเข้าถึงลูกทุกลูกก็คือ ล้มลุกคลุกคลาน ปอป้อ บอกเขาทนไม่ได้ที่จะเห็นลูกมันหล่นต่อหน้าโดยที่ไม่ทำอะไรเลย เขาพูดตั้งแต่เด็กๆ นะ จนโตมาเขาก็ทำเหมือนเดิม”

รวมถึง อริญา พัววรานุเคราะห์ ออกมาพูดถึงกว่าจะถึงวันนี้ของ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ ว่า “ย้อนกลับไปตอนเด็กๆ เราต้องการหาอะไรให้เขาเล่น เพื่อให้พลังเหลือน้อย และที่มาเล่นแบดมินตันก็ไม่ได้คาดหวังจนถึงติดทีมชาติหรอก จนมาถึงวันที่เป็นจุดเปลี่ยนคือ วันที่เอสซีจีเรียกตัวไป มันเป็นโอกาสที่เราจะได้ก้าวไปอีกก้าวหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ได้คิดเหมือนกันว่าจะก้าวมาได้ถึงขนาดนี้”