นักแบดไทยฉีดวัคซีนก่อนไปแข่งเก็บแต้ม-ลุยศึกโอลิมปิก

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย ที่เตรียมตัวจะเดินทางไปเข้าร่วมการเเข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 และเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อเก็บคะเเนนสะสม ชิงโควตาไปโอลิมปิกเกมส์ อีก 3 รายการที่เหลือ ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกไปเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แล้ว

“เรามีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนในนักกีฬาแบดมินตันไทย เพื่อป้องกัน ก่อนเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อเก็บคะเเนนสะสมลุ้นโควตาไปโอลิมปิก อีก 3 รายการที่เหลือ ในเดือน พ.ค. และ มิ.ย. เริ่มจากรายการ อินเดีย โอเพ่น วันที่ 11-16 พ.ค., มาเลเซีย โอเพ่น วันที่ 25-30 พ.ค. และ สิงคโปร์ โอเพ่น วันที่ 1 -6 มิ.ย. รวมถึงศึกโตเกียวเกมส์ 2020 วันที่ 23 ก.ค.-8 ส.ค.นี้ โดยนักกีฬาและทีมงานทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 ครั้ง ก่อนออกเดินทางไปแข่งขัน โดยจะฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 หลังจากฉีดเข็มแรกครบ 14 วัน” คุณหญิงปัทมา กล่าว

นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวเพิ่มเติมถึงพี่น้องวงการกีฬาและครอบครัวชาวแบดมินตันทุกท่านว่า มีความห่วงใยในพี่น้องประชาชน และผู้คนในวงการกีฬา รวมถึงวงการแบดมินตัน การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้กลับมาระบาดอย่างรุนแรงในเวลานี้ เชื่อว่าทุกคนย่อมเคร่งครัดรัดกุมต่อมาตรการทางด้านสาธารณสุข จนเป็นความเคยชินในชีวิตประจำวัน เช่น การสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่างในการเข้าสังคม ไม่นำตัวเองไปในสถานที่เสี่ยง ใช้เทคโนโลยีแทนการสัมผัสในการทำงานและชีวิตประจำวัน สิ่งเหล่านี้เป็นเกราะป้องกันเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ร่างกาย

“สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ขอเป็นกำลังใจในการต่อสู้กับโรค เข้ารับการรักษา อย่าท้อ อย่าหมดกำลังใจ เพราะใจที่เข้มแข็งคือยาวิเศษ ร่วมกับวิทยาการทางการแพทย์ ขอส่งพลังใจไปยังผู้ป่วยโควิด-19 ทุกท่าน และขอส่งแรงใจกับความสำนึกในพระคุณไปยังบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่อุทิศตนทำงานหนักท่ามกลางสถานการณ์อันยากลำบากนี้” คุณหญิงปัทมา กล่าว

“ขอให้ทุกท่าน อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ และเลือกออกกำลังกายในบ้าน การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างร่างกายและจิตใจให้แกร่ง ดังที่ประธานโอลิมปิกสากล มร.โธมัส บาค เคยกล่าวไว้ว่า กีฬาเป็นการลงทุนที่ไม่แพงเพื่อการสาธารณสุข และการสร้างสังคมที่มีสุขภาพดี” คุณหญิงปัทมา ย้ำอีกครั้ง